ถือเป็นอีกนักแสดงที่เติบโตอย่างมีคุณภาพในวงการบันเทิง สำหรับ ฮาน่า ลีวิส นางเอกสายบู๊ ที่ละคร “ข้ามากับพระ” ซึ่งกลับมารีรันทางช่อง 7 อีกครั้ง เพิ่งลาจอไปด้วยเรตติ้งที่ยังคงดีเช่นเดิม วันนี้ “บันเทิงเดลินิวส์” เลยขออาสาพาแฟน ๆ ไปพูดคุยกับสาวสวยคนนี้ ทั้งอัพเดทผลงานที่เจ้าตัวมีละครที่กำลังซุ่มถ่ายทำถึงสองเรื่อง รวมไปถึงมุมมองที่เจ้าตัวมีต่อการทำงานในวงการ สิ่งที่ประทับใจในชีวิต และที่พลาดไม่ได้คือเรื่องหัวใจกับหนุ่ม อ๊อฟ-ชนะพล สัตยา ที่ตอนนี้กำลังรักหวานสุด ๆ อีกด้วย
อัพเดทผลงาน
Q : อัพเดทผลงานหน่อย ตอนนี้มีอะไรบ้าง?
ฮาน่า : ผลงานตอนนี้มีเรื่อง ‘เจ้าสาวจำเลย’ ที่กำลังถ่ายทำอยู่ แต่เบรกการถ่ายทำไป เพราะสถานการณ์โควิดด้วย แล้วก็ที่กำลังจะเปิดกล้องคือ ‘ชาติพยัคฆ์คมนักเลง’ ค่ะ ส่วน ‘ข้ามากับพระ’ ที่กลับมารีรัน” แต่เรตติ้งยังดีเหมือนเดิม ก็รู้สึกดีใจมากที่แม้จะเป็นการรีรันแต่ยังได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งเรตติ้งและกระแสตามช่องทางโซเชียลต่าง ๆ ผู้ชมยังสนุกกับละคร เวลาไปไหนมาไหน แฟน ๆ ยังเรียกเรา แก้วตา ชื่อในละครเลย ดีใจที่ผลตอบรับดีทุกคนยังดูแล้วสนุกกับละครของเรา เพราะเรื่องนี้มันมีทั้งความบู๊ คอเมดี้ สอดแทรกข้อคิด มีครบรสจริง ๆ ค่ะ
Q : เรื่อง “เจ้าสาวจำเลย” กลับมาร่วมงานกับ “บิ๊กเอ็ม-กฤตฤทธิ์ บุตรพรม” อีกครั้ง เป็นยังไงบ้าง?
ฮาน่า : สนิทและสนุกมากขึ้นค่ะ เพราะเราเคยร่วมงานกันมาก่อน พอได้ร่วมงานกันอีกก็คือเข้าขาแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ที่ร่วมงานกันมาก็มีทั้ง ‘ข้ามากับพระ’, ‘เจ้าพายุ’ ซึ่งก็สนิทกัน พอกลับมาเจอกันอีกก็ไม่ต้องปรับจูนอะไรกันเยอะ ทำให้ทำงานง่ายขึ้นมากกว่าปกติ อย่างมีฉากไหนที่ต้องเข้าด้วยกัน แล้วเป็นฉากยาก ๆ เราก็คุยกันเลยว่า ‘เฮ้ย! พี่เราเล่นแบบนี้มั้ย พี่ว่าไง’ หรือ ‘จะให้หนูเล่นอีกแบบ’ คือ พอเราทำงานด้วยกันบ่อย มันก็ทำให้เราคุยกันง่ายขึ้น กล้าเล่นกันมากขึ้น
Q : ตั้งแต่ร่วมงานกับ “บิ๊กเอ็ม” มาหลายเรื่องแล้ว ประทับใจอะไรในตัว “บิ๊กเอ็ม” ที่สุด?
ฮาน่า : พี่เอ็มเป็นคนที่น่ารักมาก ๆ เป็นคนที่ชอบช่วยเหลือ มีน้ำใจ ชอบซื้อขนมมาฝากฮาน่า ฝากทีมงานตลอด อย่างบางวันบอกพี่เอ็มอยากกินขนมจัง เอาแล้ววันรุ่งขึ้นพี่เอ็มจัดชุดใหญ่มาให้เลย มาเต็มแบบ 2-3 ถุงใหญ่ เขาเป็นคนที่ชอบแบ่งปัน ดูแลคนรอบข้าง มีความสุขที่ได้ร่วมงานกับพี่บิ๊กเอ็มเสมอค่ะ
Q : อีกเรื่องหนึ่งกับ “ชาติพยัคฆ์คมนักเลง” คู่กับ “เข้ม-หัสวีร์ ภัคพงษ์ไพศาล” เรื่องนี้รับบทเป็น?
ฮาน่า : ใน ‘ชาติพยัคฆ์คมนักเลง’ รับบทเป็น ‘รุ้งระวี’ ลูกกำนันคาแรกเตอร์ก็เลยจะห้าว ๆ แก่น ๆ ขี่ม้า เตะต่อยได้ ออกแนวสายลุยอีกแล้ว ซึ่งจริง ๆ แนวแอ๊คชั่น ถือว่าเป็นแนวถนัดของฮาน่าเลยก็ได้ เพราะด้วยความที่เราแสดงมาหลายเรื่อง ผ่านการเรียนการฝึกซ้อมกับอาจารย์กับสตั๊นท์เก่ง ๆ หลายท่านที่เป็นคนมีฝีมือเบอร์ต้น ๆ มาแล้ว มันเลยทำให้เราเหมือนมีวิชา มีทักษะด้านนี้ติดตัวสะสมมาเรื่อย ๆ มันเหมือนกับว่าทำให้เราผ่านการสะสมประสบการณ์หนัก ๆ มาแล้วเรื่อย ๆ
Q : นอกจากงานละคร ตอนนี้มีทำอะไรอีกบ้าง?
ฮาน่า : ช่วงนี้ที่สถานการณ์โควิด-19 ก็ไม่ได้ถ่ายละคร เราก็ลองหันมาขายของออนไลน์ ทำร่วมกับพี่อ๊อฟ (ชนะพล) ในเพจ ‘เปิดท้ายดารา by อ๊อฟ ชนะพล’ มีทั้งเอาของใช้ส่วนตัวเรามาขาย ผลิตสินค้าขึ้นมาเองอย่าง น้ำพริกหมูกระจก หมูแผ่นทอดกรอบ พอมาลองขายของออนไลน์ระหว่างที่งานในวงการยังไม่สามารถทำได้ ก็สนุกดีนะคะ แถมยังเป็นการได้พูดคุยกับแฟน ๆ อีกทางหนึ่งด้วยค่ะ
ปลอกเปลือกความคิดในวงการ
Q : อยู่ในวงการกี่ปีแล้ว ได้เรียนรู้อะไรจากวงการนี้ที่สุด?
ฮาน่า : จริง ๆ ฮาน่าเข้าวงการมาเกือบ 10 ปีแล้วค่ะ ตั้งแต่ประกวดมิสทีนไทยแลนด์ 2010 แล้วก็เริ่มเข้ามาเล่นละคร ตลอด 10 ปี มันก็ทำให้เราค่อย ๆ เรียนรู้ชีวิตการทำงานที่ต้องรักษาเวลา การทำงานร่วมกันกับคนอื่น มันเลยทำให้เราได้วินัย ได้เรียนรู้ในวิชาการแสดง ยิ่งพอเราอยู่มานานขึ้นเราก็เรียนรู้ว่าวิชาการแสดงมันไม่มีหยุดไม่มีที่สิ้นสุด มันเหมือนเราต้องตื่นตัวเรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ เราจะย่ำอยู่กับที่ไม่ได้ แต่ละบทละครมันมีวิธีการถ่ายทอด การแสดงไม่เหมือนกัน เราก็ต้องฝึกฝนกับตัวเองตลอดเวลาให้เยอะขึ้น
Q : การทำงานในยุคโควิด ปรับตัวยังไงบ้าง?
ฮาน่า : สำหรับฮาน่าเลยอย่างแรก คือต้องระวังตัวเองให้มาก ๆ ต้องระวังตัวเองเวลาไปไหนมาไหน เพราะเราไม่รู้ว่าคนที่เราเจอแต่ละวันแต่ละคนเขาไปเจอใครไปไหนกันมาบ้าง เพราะบางทีเชื้อโรคมันอาจยังไม่แสดงออกมา ในทุกวันเราก็ต้องดูแลเรื่องความสะอาดมีวินัยในการดูแลตัวเอง เช่น พกสเปรย์แอลกอฮอลล์ พยายามล้างมือบ่อย ๆ หรือถุงมืออะไรได้ คือ เราต้องทำให้เป็นนิสัยปกติเลย ต้องมีสัมผัส จับนั่นนี่โน่น ซึ่งพอหลังจากเราทำอะไรต้องเซฟตัวเองทำความสะอาด ล้างมือ ตลอดค่ะ
Q : “นักแสดงที่ดี” ในความคิดของ “ฮาน่า” ต้องเป็นยังไง?
ฮาน่า : สำหรับฮาน่านักแสดงที่ดี อันดับแรกเลย คือ ต้องทำการบ้าน อ่านบท ทำความเข้าใจกับบท ศึกษาบท แล้วพอไปถึงกอง เราต้องรู้หน้าที่ของเราว่าเราต้องทำอะไร เราต้องจัดแจงตัวเองให้ดีที่สุด คือเราต้องรู้หน้าที่ตัวเอง อันนี้คือสิ่งสำคัญของการเป็นนักแสดงที่ดีค่ะ
Q : เวลาที่รู้สึกเหนื่อย กำลังใจสำคัญของ “ฮาน่า” คืออะไร?
ฮาน่า : เวลาฮาน่าเหนื่อย จะได้กำลังใจจากครอบครัว คุณพ่อ คุณแม่ หลาน จากคนรอบข้างของเรา แฟนคลับ พอเวลาที่เรารู้สึกเหนื่อยท้อหมดแรง เราก็จะส่งรูปส่งไลน์ไปหาแล้วเขาก็จะไลน์หรือรูปกลับมาว่า สู้ สู้ นะ หรืออย่างแฟนคลับเขาจะรู้ว่าวันนี้เราทำงานเขาก็จะส่ง ๆ ข้อความส่งรูปให้กำลังใจทั้งวันคือ มันก็เป็นกำลังใจอีกอย่างที่ทำให้เรามีพลัง ไม่ว่าเราจะมีปัญหา ไม่สบาย ปวดหัว เราก็คือจะได้กำลังใจจากคนรอบข้างของเราเสมอและเป็นกำลังใจสำคัญที่สุดค่ะ
Q : ความสามารถหรือสิ่งที่ฮาน่าอยากพัฒนาให้ดีมากยิ่งขึ้น หรือสิ่งที่เรามองว่ามันเป็นจุดด้อยที่เราปรับปรุง คืออะไร?
ฮาน่า : น่าจะเป็นเรื่องการพูด เพราะเราไม่ค่อยกล้าพูด เป็นคนที่พูดน้อยไม่ค่อยกล้าพูดสักเท่าไหร่ กลัวพูดผิด พูดติด ๆ ขัด ๆ หรือบางทีเราก็กลัวที่จะใช้คำพูดเปรียบเทียบไม่ถูก บางทีเราอยากจะพูดคำนี้ แต่เราไปพูดอีกคำหนึ่ง มันอาจจะดูแรงหรือไม่ถูกต้อง เรื่องการพูดผิด เลยเป็นเรื่องที่เรากลัวมากกว่าค่ะ
Q : สิ่งที่รู้สึกภูมิใจที่สุด คือเคยทำได้คืออะไร?
ฮาน่า : เรื่องการช่วยเหลือผู้อื่น เพราะมันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจทำ อยากทำ อย่างช่วงที่ผ่านมาเราตั้งใจทำข้าว ทำขนม ทำน้ำ เอาไปให้คนที่เขาเดือดร้อนจริง ๆ จากสถานการณ์โควิด-19 เขาเดือดร้อนกว่าเรา เรารู้สึกที่อยากจะแบ่งปันให้เขา แล้วเราได้ลงมือทำทุกอย่างเองได้ไปมอบให้เขาเอง มันทำให้เรารู้สึกดีมากนะคะ
Q : ณ วันนี้ เวลาที่พูดถึงชื่อ “ฮาน่า ลีวิส” อยากให้คนคิดถึงอะไรมากที่สุด?
ฮาน่า : เอาจริง ๆ นะ ถ้าเวลาคนพูดถึงชื่อ ‘ฮาน่า’ หลาย ๆ คนก็จะบอกว่า ‘ฮาน่า ลีวิส ราชินีนักบู๊’ เขาก็จะพูดถึงเรื่องผลงานการบู๊ของเรา ในเรื่องของแอ๊คชั่นที่บอกว่า ฮาน่า บู๊สวย บู๊เท่ บู๊ดีเหมือนผู้ชาย อันนี้แหละที่อยากให้คนคิดถึง ก็เหมือนเป็นสิ่งที่เป็นตัวตนของเราที่เขาจำได้กัน เพราะเราเองก็เป็นคนลุย ๆ อยู่แล้ว และผลงานแนวนี้ก็เป็นผลงานที่สร้างชื่อให้เราด้วยอยู่แล้ว ดีใจค่ะที่มีคนจำได้ค่ะ
Q : ตอนนี้เวลาว่าง งานอดิเรก คืออะไร?
ฮาน่า : ช่วงนี้ก็จะเป็นขายของออนไลน์ แล้วก็เล่นติ๊กต๊อกค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นขายของออนไลน์ซะมากกว่า เหมือนเราหารายได้เล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะพอเราขายได้มากเราก็จะแบ่งส่วนหนึ่งไว้บริจาคเป็นสิ่งที่เราตั้งใจไว้อยู่แล้ว
เปลือยหัวใจ พร้อมเปิดโมเมนต์หวานกับ “อ๊อฟ ชนะพล”
Q : อัพเดทความรักกันบ้าง คบ “อ๊อฟ ชนะพล” มากี่ปีแล้ว ยังมีอะไรต้องปรับจูนกันอีกมั้ย?
ฮาน่า : ตอนนี้เรียกว่ากำลังศึกษาคบหาดูใจกันอยู่ มันก็ไม่ต้องมีอะไรมาปรับจูนกันมาก เพราะเรานิสัยคล้าย ๆ กัน คือ เวลาที่มีอะไรความที่เขาโต พี่เขาพูดหรือบอกอะไรมาด้วยความที่เขาโตกว่า เขาก็จะมีเหตุผล เราก็จะเข้าใจ อย่างที่บอกนิสัยก็คล้าย ๆ กันมันเลยทำให้คุยกันง่ายค่ะ
Q : ประทับใจอะไรในตัว “อ๊อฟ” ที่สุด?
ฮาน่า : คือพี่เขาเป็นคนที่พูดจาเพราะ พูดจาเพราะมาก พูดกับเรามีค่ะ มีค่ะ ตลอด ‘น้องเอาอย่างนี้มั้ยคะ’ คือเป็นผู้ชายที่พูดเพราะ แล้วเราก็ชอบผู้ชายที่พูดเพราะอยู่แล้ว แล้วก็ดูแลเทคแคร์เราดีมาก ๆ ใส่ใจเราในเรื่องที่เราก็ไม่คิดว่าเขาจะใส่ใจเราด้วย มันก็เลยทำให้เรารู้สึกประทับใจในตัวเขาค่ะ
Q : มีวิธีดูแลความรักยังไง เวลาเข้าใจไม่ตรงกัน มีวิธีปรับจูนยังไง?
ฮาน่า : รุ่นนี้แล้วก็คุยเลยค่ะ มีอะไรไม่เข้าใจก็ถามเลยคุยเลย อย่างถ้าเราไม่เข้าใจหรือมีเอ๊ะในใจ หรือถ้ามีปัญหา เรารู้สึกอะไรยังไงเราก็คุยเลย เพราะเรารู้สึกว่าไม่อยากเก็บไว้ เพราะถ้าเรายิ่งเก็บก็เหมือนสะสมไปเรื่อย ๆ แล้วมันจะไประเบิดทีเดียว ก็เลยไม่อยากให้เป็นแบบนั้น ถ้ามีอะไรคุยกันเลยเคลียร์กันให้รู้เรื่อง จบนะ เราจะไม่ทำแบบนี้เป็นแบบนี้อีกนะ หรือว่าถ้าเป็นแบบนี้เราจะทำยังไง วิธีของเรา ก็มีอะไรคุยเลย คุยให้รู้เรื่องเข้าใจ
Q : ในฐานะที่ “อ๊อฟ” เป็นรุ่นพี่ในวงการ เวลาที่รับงานหรือทำอะไร มีปรึกษา “อ๊อฟ” บ้างมั้ย?
ฮาน่า : ถ้าเวลาทำงานในละครอันนี้ปรึกษาเต็ม ๆ เลยค่ะ เพราะพี่อ๊อฟเขามีประสบการณ์มากกว่าเรา แล้วเขาเป็นเหมือนครูคนหนึ่งได้เลย เพราะเขาจะคอยบอกเราแนะนำว่า ถ้าเป็นแบบนี้ควรทำแบบนี้ ในเรื่องของการทำงานการแสดงละครฮาน่าจะปรึกษาพี่อ๊อฟบ่อยมาก หรือแบบเราไม่เข้าใจในเรื่องของบท ทำไมบทต้องเป็นแบบนี้ เขาก็จะมีคำตอบคอยบอกเราได้เป็นอย่างดี
Q : พอดูใจกันแบบนี้ มีนิสัยอะไรติดมาจาก “อ๊อฟ” บ้างมั้ย?
ฮาน่า : มีค่ะคือ เริ่มเป็นคนที่ตลกมากขึ้น เริ่มยิงมุกตลก เพราะบางทีพี่อ๊อฟเป็นคนขำ ๆ เวลาคุยเล่นเขาจะมีมุกตลกแทรก ๆ มาบ้าง เราก็จะเรียนรู้มาจากเขาเอาไปเล่นบ้าง และที่สำคัญคือ ฟังเพลงใต้เป็นแล้ว เพราะโดนกรอกหูตลอด เพราะเขาจะส่งมาให้ฟังตลอดแล้วเขาก็จะบอกน้องฟังไว้นะ ฮาน่าก็จะบอกว่าฟังแล้วต้องแปลให้ด้วยนะ อีกเรื่องน่าจะเป็นเรื่องของขี้บ่น คือพี่อ๊อฟเป็นคนขี้บ่นนิด ๆ อาจจะบ่นในเรื่องของการทำงาน อย่างพอพูดถึงเรื่องของการทำงาน หนูก็จะต้องแบบนี้นะ แบบนั้นไม่ได้ แบบนี้ดี แบบนี้ไม่ดีนะ
Q : ถามเรื่องแต่งงานมีคิดบ้างรึยัง?
ฮาน่า : สำหรับฮาน่าคนเดียวนะ ก็มีคิดบ้างเล่น ๆ ว่าเราอยากได้แบบนี้แบบนั้น แต่แค่คิดเล่น ๆ นะ เพราะตอนนี้รู้สึกว่าตัวเองยังไม่พร้อมขนาดนั้น อยากทำงานก่อน ในตอนนี้เราโฟกัสแค่เรียนรู้กันไปก่อน เรื่องอื่น ๆ ค่อยว่าตามอนาคต
Q : นิยาม “ความรัก” ในมุมมองของ “ฮาน่า” ณ ตอนนี้เป็นยังไง?
ฮาน่า : ไม่ค่อยมีอะไรชัดเจนขนาดนั้น แค่เราเข้าใจกัน รักษาน้ำใจกัน ดูแลซึ่งกันและกัน เอาใจใส่ซึ่งกันและกัน สำหรับฮาน่าตอนนี้คือ โอเคแล้ว เพราะว่าความรักมันไม่ต้องการอะไรมากแค่คนรักใส่ใจดูแล โดยเฉพาะใส่ใจคือสิ่งที่สำคัญสุดแค่นั้นพอแล้ว
ความประทับใจต่อแฟนคลับ
Q : เห็นว่ามีแฟนคลับบ้านคู่ “อ๊อฟฮาน่า” ด้วย รู้สึกยังไงบ้างที่มีคนมารักและซัพพอร์ทคู่เรา?
ฮาน่า : ดีใจมาก ๆ ที่มีคนมาซัพพอร์ตเราทั้งคู่ ดีใจที่มีคนมาชื่นชอบและเอ็นดูเราเพิ่มขึ้น คือ เราได้เห็นคอมเมนต์ว่า ชอบคู่นี้จังเลย คู่นี้น่ารักชอบ จะติดตามผลงานของทั้งคู่นะ เวลาลงรูปคู่ก็มีเชียร์ให้ลงบ่อย ๆ นะ พอเราเห็นก็ดีใจที่มีคนมาซัพพอร์ต มีแฟนคลับบ้านคู่และมีแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นอีก ก็ขอบคุณทุกคนที่เอ็นดูและชอบเรามากจริง ๆ
Q : พูดถึงความประทับใจที่มีต่อแฟนคลับหน่อย?
ฮาน่า : ถ้าเราไม่ได้กำลังใจจากเขา เราไม่ได้แรงซัพพอร์ตจากเขา เราก็เหนื่อยนะก็แย่เหมือนกัน เพราะบางทีแรงซัพพอร์ตแรงกำลังใจจากเขามีผลต่อเรามากเหมือนกัน เพราะมันมีผลกับงาน และบางทีเราก็อยู่ในจังหวะเวลาที่ต้องการกำลังใจ แล้วเขาก็ให้เรามาโดยที่ไม่ได้หวังอะไรจากเรา แค่หวังให้เรามีความสุขเป็นความรู้สึกจริงใจที่เขามีให้เรา มันเลยทำให้เรารู้สึกประทับใจ ที่เห็นแฟนคลับที่เขาทำอะไรให้เราแบบที่เขาไม่ได้หวังอะไรมันเป็นความจริงใจที่ดีที่สุดสำหรับเรามากค่ะ
Q : ฝากความห่วงใยถึงแฟน ๆ หน่อย
ฮาน่า : ช่วงนี้ฮาน่าขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคนให้ผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน อย่าท้อ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นแค่มีกำลังใจ ก็อยากขอเป็นหนึ่งกำลังใจ ถึงทุกคนด้วยนะคะ
ต้องบอกว่าเป็นอีกปีของสาว “ฮาน่า” ที่งานก็ปัง ความรักก็ดีงามจริง ๆ
วันวิสาข์ ดอกเงิน