ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการที่ช่วงนี้ได้มีวาฬบรูด้า ประมาณ 4-5 ตัว มาหากินและอวดโฉมบริเวณปากอ่าวแม่กลอง พื้นที่ จ.สมุทรสงคราม นายปริญญา ผดุงถิ่น ผู้ประกอบการเรือดูวาฬแม่กลองกล่าวว่าการดูวาฬบรูด้าแม่กลองถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวของเมืองไทย ที่นำเรือยอชท์ มาให้บริการพานักท่องเที่ยวออกไปดูวาฬ ความพึงพอใจของนักท่องเที่ยวจึงไม่ใช่แค่ได้ดูวาฬอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอารมณ์และความสุขจากการได้ใช้ชีวิตบนเรือหรูที่ล่องกลางทะเลนานหลายชั่วโมงอีกด้วย

ช่วงไฮซีซันของวาฬบรูด้า ปี 2566 ระหว่างเดือน มิ.ย.-ธ.ค. การดูวาฬแม่กลองได้ยกระดับอีกขั้นด้วยการเปลี่ยนมาใช้เรือยอชท์ลำใหญ่กว่าเดิม ยาว 63 ฟุต กว้าง 18 ฟุต เครื่องยนต์ 500 แรงม้า ติดแอร์พลังงานสะอาดโซลาร์เซลล์ รองรับผู้โดยสารได้ 30 คน พร้อมประกันการเดินทางวงเงินคุ้มครองสูงสุดคนละ 1 ล้านบาท ตามมาตรฐานที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด ส่วนการขับเคลื่อนของเรือก็เป็นไปอย่างปลอดภัย ความเร็วอยู่ที่ 10.5 นอตหรือเกือบ 20 กม.ต่อชั่วโมง ระยะทางห่างจากชายฝั่ง 20-30 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมงครึ่งถึง 2 ชั่วโมง

นายปริญญา บอกว่า “หรู…เร็ว…ปลอดภัย” เป็นคำขวัญใหม่ของเรือยอชท์ powercat catamaran ดูวาฬแห่งแม่กลอง เพื่อมุ่งสร้างความประทับใจที่สุดให้กับนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันทีมงานที่มากประสบการณ์ในการดูวาฬ เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2535 หรือกว่า 30 ปีมาแล้ว ก็สามารถจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่างความพอใจ ความปลอดภัยของคนบนเรือ กับความสุข ความปลอดภัยของวาฬทุกตัวในทะเล ส่วนการดูวาฬแม่กลองได้เริ่มต้นมาเมื่อปี 2564 ได้ดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจาก กทม. และชาวต่างชาติ ให้เดินทางมายัง จ.สมุทรสงคราม ช่วยกระจายรายได้ไปยังร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยว และโรงแรมต่าง ๆ ขณะที่อาหารและเครื่องดื่มที่บริการบนเรือก็ใช้บริการในท้องถิ่นทั้งสิ้น

กิจกรรมดูวาฬบรูด้าแม่กลอง เป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ปลูกฝังจิตใจรักธรรมชาติในหมู่เยาวชนที่นิยมตามพ่อแม่มาลงเรือ เนื่องจากวาฬบรูด้า เป็นยักษ์ใหญ่ใจดีที่มีพฤติกรรมให้ศึกษาอย่างหลากหลาย แสดงออกให้เห็นถึงความเป็นสัตว์ที่มีครบทั้งไอคิวหรือความฉลาด และอีคิวหรืออารมณ์ขี้เล่น

นายภาณุมาศ รวมสุข ประธานฝ่ายท่องเที่ยวและบริการหอการค้า จ.สมุทรสงคราม กล่าวว่า วาฬบรูด้าถือเป็นยักษ์ใหญ่ใจดีแห่งทะเลไทย เพราะยอมให้มนุษย์เข้าใกล้โดยไม่ทำอันตราย บริเวณที่พบวาฬบรูด้าน่าจะมีอาหารประเภทแพลงก์ตอน ปลากะตัก และปลาทูจำนวนมาก จึงทำให้วาฬบรูด้าฝูงนี้ที่ปกติมักจะหากินในทะเลพื้นที่ จ.เพชรบุรีและ จ.สมุทรสาคร ย้ายถิ่นฐานมาหากินบริเวณปากอ่าวแม่กลอง ซึ่งที่ผ่านมาพบเห็นไม่บ่อยนัก ดังนั้นการที่วาฬบรูด้ามาปรากฏตัวให้เห็นช่วงนี้ และมาหากินนานหลายเดือน จึงเป็นเรื่องที่ดีที่ทางหอการค้า จ.สมุทรสงคราม และชมรมร้านอาหาร จ.สมุทรสงคราม จะหาทางสนับสนุนให้เกิดการท่องเที่ยวโดยนั่งเรือไปชมวาฬบรูด้าอีกทางหนึ่ง

ผู้สนใจสำรองที่นั่งล่วงหน้า ผู้ใหญ่คนละ 2,500 บาท เด็กคนละ 1,500 บาท หรือจะเช่าเหมาลำก็ได้ครั้งละ 60,000 บาท รองรับผู้โดยสารได้ 30 คน ราคาดังกล่าวรวม WELCOME DRINK พร้อมอาหาร 2 มื้อ น้ำดื่ม ขนม และประกันภัยคนละ 1 ล้านบาท ในเรือมีห้องพักติดแอร์ ห้องสุขาสะอาด และสามารถขึ้นไปดาดฟ้าเรือชั้น 3 มองทัศนียภาพ 360 องศา จุดขึ้น-ลงเรืออยู่ที่ท่าน้ำหน้าวัดใหญ่ ใกล้ปั๊มน้ำมัน ปตท. เขตเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม ตั้งแต่ 08.00-14.00 น. ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 09-0197-7521.

มานพ จันทร์ฤทธิ์