กรณีที่ตำรวจได้หลักฐานสำคัญ จากกล้องวงจรปิด รถยนต์กระบะ มาสด้า สีดำ ทะเบียน ขย 5667 ชลบุรี ของสองผัวเมีย ที่เข้าให้การเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจก่อนหน้านี้ โดยยังให้การว่า ได้ถูกนางเพธาน นายหน้าชาวเยอรมัน ว่าจ้างให้บรรทุกตู้แช่แข็งสีขาว ขนาดความยาว 1.50 เมตร ให้นำไปส่ง ให้ที่บ้านพลูวิลล่า เลขที่ 59/49 หมู่ 9 ซอยหนองหิน 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ ที่คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับการหายตัวไป ของนักธุรกิจชาวเยอรมันรายนี้ จึงเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจกับตำรวจ
สรุปไทม์ไลน์คดีอุ้มฆ่าหั่นศพ “ฮันส์ ปีเตอร์”หลังหายตัวปริศนา5วัน
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังทีมสืบสวนไล่กล้องวงจรปิด จนเจอนายโอลาฟ ชาวเยอรมัน เพื่อนสนิท นางเพธาน นายหน้าชาวเยอรมัน ที่รับช่วงต่อบรรทุกตู้แช่แข็งขับวนรอบๆ จ.ชลบุรี เป็นระยะทางกว่า 160 กม. ก่อนจะขับเข้ามาจอดในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งพื้นที่ หมู่ 5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ห่างลานจอดรถชั่วคราว ที่พบรถเบนซ์ของนายฮันส์ ปีเตอร์ แรลเตอร์ มัค อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน ถูกนำไปจอดทิ้งไว้ ตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจสอบบ้านทาวน์โฮมชั้นเดียว พบชิ้นสวน นายฮันส์ ถูกหั่นอยู่ในตู้แช่แข็งดังกล่าว เสียบปลั๊กไว้อยู่ในห้องนอน
จึงประสานตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เขต 2 ชลบุรี เข้าตรวจสอบเก็บรวบรวมหลักฐาน ทั้งนี้จากหลักฐานที่พบ ทำให้ตำรวจต่อจิ๊กซอว์แผนประทุษกรรมโหดเหี้ยมได้อย่างชัดเจน มีการใช้อุปกรณ์ทั้ง เลื่อยไฟฟ้า เชือกรัดสีส้ม ที่ซีลอาหารนอก ขวดน้ำ กระป๋องเบียร์ ขวดน้ำอัดลม ตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ภายในบ้าน รวมทั้งตู้แช่ จากนั้นหลังหั่นศพเสร็จสิ้น ได้นำ ชิ้นส่วนร่างกายของนายฮันส์ ถูกหั่นชำแหละเป็นแยกชิ้นส่วนๆ อาทิ ศีรษะ ลำคอ กลางลำตัว ขาทั้ง 2 ข้าง ข้อเท้า 2 ข้าง และแขนทั้ง 2 ข้าง รวม 13 ชิ้นส่วน ไปแช่ไว้ภายในตู้อำพรางคดี คาดเตรียมนำไปทิ้งทำลายหลักฐาน
จากการร่วมรวมหลักฐานทั้งหมด สันนิษฐานว่า ภายหลังมีการหลอกผู้ตายไปพูดคุยธุรกิจโดยนกต่อแล้ว มีการลวงผู้ตายไปหลายแห่งโดยขับรถตามกันไป ก่อนไปที่บ้านหลังหนึ่ง คาดว่าเป็นสถานที่ที่เพื่อนชาวเยอรมัน หรือกลุ่มผู้ก่อเหตุรออยู่ ก่อนบังคับให้ผู้ตายโอนเงินประมาณ 3 ล้านบาทให้ ก่อนลงมือฆ่า จากนั้นมีการให้นกต่อและชาวเยอรมัน ติดต่อซื้อตู้แช่ขนาดใหญ่มาส่งให้อีกที ก่อนย้ายขึ้นรถกระบะ ที่พบในวงจรปิดพาขับวนไปหลายที่ เพื่อสร้างความสับสน กระทั่งมาถึงบ้านหลังที่คาดว่าเป็นที่ที่บังคับผู้ตายโอนเงิน ก่อนลงมือฆ่า แล้วนำร่างใส่ตู้แช่ ก่อนนำไปยังบ้านที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้มีการนำศพและตู้แช่ขึ้นไปบนห้องนอนพร้อม ซื้อน้ำอัดลม เบียร์ และเลื่อยไฟฟ้า มาช่วยกันหั่นศพเป็นชิ้นๆ แยกชิ้นส่วนกันในห้องนอน เนื่องจากกองพิสูจน์หลักฐานพบหลักฐานชัดเจน เป็นเศษเนื้อและเลือดผู้ตายที่กระเด็นติดกำแพงห้องนอน ขณะถูกเลื่อยไฟฟ้าผ่าแยกร่าง และจากการสืบสวนยังพบว่า หลังผู้ตายหายไปไม่กี่วัน พบว่ากลุ่มชาวเยอรมัน ที่ก่อเหตุมีการไปหาซื้ออุปกรณ์ตกปลา ลักษณะคล้ายเตรียมตัวออกเรือไปตกปลา ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจมีแผนเช่าเรือตกปลาออกไปกลางทะเลเพื่อนำชิ้นส่วนศพไปทิ้งทำลายศพ เพราะก่อนหน้านี้มีการเรียก นางเพธาน นายโอลาฟ และเพื่อนผู้ตายชาวเยอรมัน 2 คน ที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำที่โรงพัก พบว่ามีการพูดคุยกันหน้าโรงพัก โดยไม่รู้ว่ามีคนฟังภาษาเยอรมันอยู่ด้วย ได้ยินคำว่า “หากตำรวจไม่เจอศพ ก็ไม่ต้องกลัว เพราะไม่สามารถทำอะไรได้”
จากการตรวจสอบประวัติกลุ่มคนร้าย พบว่า เป็นแก๊ง outlaw หนึ่งในแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่อันตรายที่สุดที่กลุ่มชาวต่างชาติ ส่วนมากเป็นชาวเยอรมัน หนีคดีมากบดาน ชักชวนกันตั้งแก๊งมิจฉาชีพในไทย กระทั่งมาพบนางเพธาน ทำธุรกิจกับผู้ตาย จึงมีการวางแผนก่อเหตุดังกล่าว และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้งพบว่า นางเพธาน ขับรถตามกันออกไปกับผู้ตาย ไปในหลายสถานที่ ทั้งที่บ้านผู้ตายและที่อื่นๆ
ต่อมารถเหลือแค่คันเดียว แล้วหลังจากนั้นก็หายไป และจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบัญชีนายฮันส์ พบว่ามีเงินถูกโอนออกไปหลายบัญชี รวม 3 ล้านบาท อีกทั้งจากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของนางเพธาน พบมีเงิน 8 แสนบาท โอนเข้าบัญชี และจากการตรวจสอบประวัติทั้ง 3 คน ที่สอบปากคำ พบว่าบางคนมีหายจับที่ประเทศเยอรมนี เป็นหมายจับคดีต้มตุ๋น
ต่อมามีพลเมืองดี เข้าแจ้งเบาะแสกับตำรวจว่า ได้รับการว่าจ้างจากคนเยอรมันกลุ่มหนึ่ง ให้ขนตู้แช่ขนาดใหญ่ไปที่บ้านหลังหนึ่ง แล้วหลังจากนั้นพบหญิงสาวกับชาวเยอรมันอีกคน ขนตู้แช่ขึ้นรถปิกอัพอีกคัน ขับออกไป เจ้าหน้าที่จึงมีการตรวจสอบวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่า ทั้งสองขับรถขนตู้แช่วนไปทั่วตัวเมืองชลบุรี เป็นเวลานานและแวะบ้านหลายที่รวม 3 หลัง ก่อนมาสิ้นสุดที่บ้านเกิดเหตุ รวมระยะประมาณ 160 กม. กระทั่งมาพบศพผู้ตาย และนำมาซึ่งการขออนุมัติหมายจับดังกล่าว