วันนี้ (5 ก.ค.) กรรมการ กสทช. มีกำหนดการประชุมครั้งที่ 15/2566 เวลา 09.30 น. มีวาระที่ต้องพิจารณาทั้งสิ้น 81 เรื่อง อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลา 09.20 น. สำนักประธานกรรมการและการประชุม ได้แจ้งเข้าระบบอิเล็กทรอนิกส์ ขอยกเลิกการประชุม และมีบันทึกขอยกเลิกการประชุมส่งถึงที่ประชุมในเวลา 09.40 น. ภายหลังจากเวลาการประชุมเริ่มต้นไปแล้ว 10 นาที โดยมีการนัดหมายการประชุมในครั้งต่อไปในวันที่ 19 ก.ค. 66

ทั้งนี้ กรรมการที่เข้าร่วมประชุม ได้แก่ พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ น.ส.พิรงรอง รามสูต นายศุภัช ศุภชลาศัย และนายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ส่วนนายต่อพงศ์ เสลานนท์ และ พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร ไม่เข้าร่วมประชุม

ในการประชุมครั้งที่ 15/2566 มีวาระที่ต้องพิจารณาทั้งสิ้น 81 เรื่อง เป็นเรื่องที่ค้างพิจารณา 45 เรื่อง เรื่องที่เสนอพิจารณาเพิ่มเติม 25 เรื่อง ในจำนวนนี้ มีเรื่องสำคัญและเร่งด่วนที่ กสทช. ต้องพิจารณา เช่น เรื่องการปรับโครงสร้างของสำนักงาน กสทช. เรื่องการแต่งตั้งและต่ออายุคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ อย่างน้อย 10 คณะ โดยคณะอนุกรรมการอย่างน้อย 6 คณะ ได้สิ้นสุดระยะเวลาตามคำสั่งและไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ รวมถึงคณะอนุกรรมการตามกฎหมาย คือ คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ซึ่งจะหมดระยะเวลาการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 13 ก.ค. 2566 ในวาระค้างพิจารณา ยังรวมถึงคดีฟ้องร้องที่ กสทช. ต้องพิจารณาคำต่อสู้คดีของสำนักงาน กสทช. ซึ่งจะครบกำหนดการยื่นคำให้การในวันที่ 8 ก.ค. นี้

นอกจากนี้ ยังมีวาระที่กระทบต่อผู้บริโภคในประเด็นต่างๆ ที่เสนอโดยสำนักคุ้มครองผู้บริโภคด้านกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ อย่างน้อย 7 วาระ และวาระที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านโทรคมนาคม จำนวน 2 วาระ ทั้งนี้ รวมถึงการพิจารณาเรื่องร้องเรียนการออกอากาศรายการโทรทัศน์อย่างน้อย 7 วาระ ซึ่งพบว่าบางเรื่องค้างพิจารณามาแล้ว 2 ครั้ง และเรื่องเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าปรับทางปกครองกรณีผู้ประกอบกิจการฝ่าฝืนประกาศการกระทำที่น่าจะเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยหากยิ่งมีการกำหนดเกณฑ์ล่าช้า ผู้บริโภคก็ยิ่งได้รับความเสียหาย

ทั้งนี้ สำนักประธานกรรมการและการประชุมมีบันทึกข้อความด่วนที่สุด แจ้งขอยกเลิกการประชุม กสทช. ครั้งที่ 15/2566 ในระบบออนไลน์ เวลา 09.20 น. ของวันที่ 5 ก.ค. โดยระบุว่า สำนักงาน กสทช. ได้รับการประสานงานจากเลขานุการประธาน กสทช. ขอให้แจ้งยกเลิกการประชุม เนื่องจากในวันและเวลาดังกล่าว ประธาน กสทช. มีอาการป่วย ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ทั้งนี้ ให้นำระเบียบวาระการประชุม กสทช. ทั้งหมดบรรจุในระเบียบวาระการประชุม กสทช. ในวันพุธที่ 19 ก.ค. 2566 ต่อไป

ทั้งนี้บันทึกแจ้งยกเลิกการประชุมดังกล่าวมาถึงที่ประชุมภายหลังจากเวลานัดหมาย แต่ในช่วงเวลาดังกล่าวไม่มีเลขาธิการ กสทช. ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เลขานุการ กสทช. รวมถึงเจ้าหน้าที่ของสำนักประธานกรรมการและการประชุม มาที่ห้องประชุมแม้แต่คนเดียว และไม่สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ที่รับผิดชอบการประชุมได้ จนเวลาผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง จึงมีเจ้าหน้าที่มาปรากฏตัวจากการโทรศัพท์ติดตามของกรรมการท่านหนึ่ง

น.ส.พิรงรอง รามสูต กรรมการ กสทช. ด้านกิจการโทรทัศน์ กล่าวว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องซึ่งมาปรากฏตัว ณ ที่ประชุมว่า ตามระเบียบการประชุม มีกรรมการมาประชุม 4 คน สามารถประชุมได้หรือไม่ เพราะมีการนัดหมาย มีวาระประชุม และมีกรรมการมาเกินกึ่งหนึ่งของกรรมการทั้งหมด เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้และบอกว่าจะไปถามฝ่ายกฎหมาย แต่ไม่ได้กลับมาให้คำตอบ ทางกรรมการทั้ง 4 คน ซึ่งรออยู่อีกพักใหญ่จึงแยกย้ายกันไป

พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการ กสทช. ด้านกิจการกระจายเสียง กล่าวว่า การยกเลิกการประชุมกระชั้นชิดโดยไม่มีการมอบหมาย ไม่มีระเบียบรองรับและไม่เคยปรากฏมาก่อน เนื่องจากในระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมฯ ไม่ได้บัญญัติไว้ จึงไม่เคยมีการกระทำเช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่มี กสทช. หากประธานไม่สามารถมาประชุมได้ ก็ควรให้กรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุมแทน ไม่ควรปฏิบัติในลักษณะเช่นนี้ โดยไม่คำนึงถึงภาระหน้าที่ที่ยังคงมีเรื่องที่ค้างพิจารณาจำนวนมาก และเป็นการไม่ให้เกียรติแก่ผู้ร่วมงาน

อนึ่ง ปรากฏข้อมูลตามรายงานการประชุม กสทช. ครั้งที่ 19/2565 ว่าศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. ได้เคยลาป่วยเพื่อไปรับการผ่าตัด และที่ประชุม กสทช. ได้เห็นชอบให้ นายศุภัช ศุภชลาศัย ทำหน้าที่ประธานในการประชุม กสทช. ในวันที่ 27 ก.ค. 2565 แทน

“เราเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของประธานและเลขาธิการ และน่าจะเกรงใจผู้บังคับบัญชาโดยตรงมากกว่าบอร์ดคนอื่น แต่สำนักงานก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบที่มีอย่างเคร่งครัดและต้องเห็นแก่ภาพรวมขององค์กรและผลกระทบต่อสาธารณะด้วย การงดประชุมกะทันหันดังกล่าว และการที่สำนักงานไม่พยายามหาทางออกให้บอร์ดคนอื่นที่พร้อมประชุม ทำให้ส่งผลกระทบกว้างขวาง ความล่าช้าที่เกิดขึ้นใครจะรับผิดชอบ” น.ส.พิรงรอง กล่าว

ทั้งนี้ ระเบียบ กสทช. ว่าด้วยข้อบังคับการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. 2555 ข้อ 26 ระบุว่า “ในการประชุมถ้าประธานไม่อยู่ในที่ประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ที่ประชุมเลือกรองประธานคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่แทน ถ้าไม่มีรองประธานหรือมีแต่ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการที่มาประชุม เลือกกรรมการคนหนึ่งทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม”