การเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อวันที่ 14.พ.ค.66 ที่ผ่านมา หลายสนามเกิดเหตุการณ์ “ล้มช้าง” ขณะที่บางสนามเข้าตำรา “สมบัติผลัดกันชม” และมี ส.ส.หน้าใหม่แจ้งเกิดหลายเขต สำหรับเขตเลือกตั้ง จ.เลย 4 เขต เกือบแลนด์สไลด์ โดยผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้มา 3 เก้าอี้ คือเขตเลือกตั้งที่ 1 “ส.ส.ป๊อก” นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล พรรคเพื่อไทย, เขตเลือกตั้งที่ 2 นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ พรรคเพื่อไทย, เขตเลือกตั้งที่ 3 นายธนยศ ทิมสุวรรณ พรรคภูมิใจไทย และ เขตเลือกตั้งที่ 4 นายสมเจตน์ แสงเจริญรัตน์ พรรคเพื่อไทย
สำหรับ “ส.ส.ป๊อก” เลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล พรรคเพื่อไทย ถือเป็นดาวเด่นอีกคนในแวดวงการเมืองอีสาน ด้วยบุคลิกที่มาดมั่น สมวัย 52 ปี อนาคตการเมืองสดใส เกิดในตระกูลคหบดี ครอบครัวประกอบอาชีพค้าขาย เป็นเจ้าของโชว์รูม จำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ จบปริญญาโทบริหารธุรกิจ ด้านการเงิน จากมหาวิทยาลัยเมอร์เซอร์-แอตแลนต้า จอร์เจีย สหรัฐอเมริกา สนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก พอกลับมาอยู่บ้าน ช่วยครอบครัวค้าขาย เห็นสภาพความเป็นไปในชุมชน บ้านเมือง คุณภาพชีวิต การศึกษา และปัญหาต่างๆ ในสังคมรอบตัว ทำให้เกิดรู้สึกสนใจการเมืองมากขึ้น จึงฟอร์มทีมงานลงสมัครนายกเทศมนตรีเมืองวังสะพุง จ.เลย และครองตำแหน่งมาโดยไร้คู่แข่ง 3 สมัย 12 ปี ได้รับการยอมรับจากผู้บริหารท้องถิ่น ทำหน้าที่ประธานสันนิบาตเทศบาล และในช่วงดำรงตำแหน่ง ได้จัดตั้งโรงเรียนกีฬาฟุตบอลและกีฬาวอลเลย์บอล พร้อมรับตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลเมืองเลยยูไนเต็ด
ส.ส.ป๊อก เล่าให้ฟังว่า ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีเมืองวังสะพุง 12 ปี รู้สึกอิ่มตัว เพราะหลายโครงการที่ทำหน้าที่ผู้บริหาร ก็สามารถบรรลุเป้าหมาย ส่วนราชการ ประชาชนได้รับความพึงพอใจ จึงอยากจะต่อยอดผลงานตัวเอง โดยขยับขึ้นไปเล่นการเมืองระดับที่สูงขึ้น เพราะเชื่อมั่นในศักยภาพของตัวเองที่มีอยู่ น่าจะทำอะไรดีๆ ให้กับบ้านเมืองได้ จึงพร้อมที่จะทำงานการเมืองในระดับประเทศ เพื่อพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนได้เต็มที่ ซึ่งนั่นก็คือการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เลย เขต 1 จึงตัดสินใจสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ในปี 2562 โดยลงแข่งกับอดีต ส.ส.นายทศพล สังขทรัพย์ พรรคภูมิใจไทย และอดีต ส.ส วันชัย บุษบา พรรคพลังประชารัฐ ปรากฏว่าตนได้รับชัยชนะ
ทั้งนี้ หลังจากลงสมัคร ส.ส.ครั้งแรกและสอบผ่าน ต่อมาได้รับความไว้วางใจจากพรรคเพื่อไทย ทำหน้าที่กรรมการบริหารพรรค, โฆษกคณะกรรมาธิการกีฬาสภาผู้แทนฯ, กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางป้องกันและแก้ปัญหาการข่มขืนกระทำชำเราและการล่วงละเมิดทางเพศ สภาผู้แทนฯ และกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบจากการเข้าร่วม CPTPP (ข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศฯ)
ล่าสุด จากการลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เลย เขต 1 เมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ซึ่งเป็นการรักษาแชมป์ โดยมีคู่แข่งคนสำคัญคือ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข อดีต ส.ส.เลย 11 สมัย พรรครวมไทยสร้างชาติ ในการหาเสียงนอกจากจะนำนโยบายของพรรคเพื่อไทย มาบอกกล่าวพี่น้องประชาชนแล้ว ในส่วนนโยบายส่วนตัวหรือโครงการที่จะดำเนินการในพื้นที่มี 3 โครงการหลักคือกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงเพื่อยกระดับการท่องเที่ยว, แก้ไขปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในตัวเมืองเลย พร้อมผลักดันให้มีการสร้างเขื่อนน้ำลายในพระราชดำริในหลวง ร.9 และพัฒนาสนามกีฬาให้ได้มาตรฐาน เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของการแก้ไขปัญหาปากท้อง ยกระดับการศึกษา และการแก้ปัญหาสังคมในทุกมิติ ก็ได้มีการวางกรอบการทำงาน เพื่อบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรมต่อไป นั่นคือนโยบายที่ในการหาเสียง นำมาซึ่งชัยชนะได้เป็น ส.ส.สมัยที่ 2
ส.ส.ป๊อก ยังบอกว่า พื้นที่ จ.เลย และภูมิภาคอีสานนั้น การพัฒนาเรื่องน้ำเป็นปัจจัยสำคัญ เพราะน้ำเป็นต้นทุนหลักในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม หากมีแหล่งน้ำ มีน้ำเพียงพอ ก็สามารถที่จะประกอบอาชีพได้ตลอดปี ในขณะที่ภาพที่ประจักษ์คือแหล่งน้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ ในฤดูแล้งขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำขนาดเล็กหลายแห่ง ตามจังหวัดต่างๆ ที่มีการถ่ายโอนภารกิจไปให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น แต่กลับไม่มีงบประมาณในการอนุรักษ์ ปรับปรุง ช่วงดูฝนเกิดภาวะน้ำท่วม ขณะที่ฤดูแล้งกลับขาดแคลนน้ำ จึงเป็นประเด็นที่ตนมองว่าเป็นวาระเร่งด่วน ที่จะนำมาเสนอต่อสภาผู้แทนฯ ในโอกาสต่อไป
“พื้นที่ จ.เลย มีความโดดเด่นด้านแหล่งท่องเที่ยวและการเกษตร รวมทั้งประเพณีวัฒนธรรม นอกจากนี้ ในส่วนการคมนาคมขนส่ง โลจิสติกส์หรือระบบการจัดการการส่งสินค้า เชื่อมต่อรถไฟความเร็วสูง ก็เป็นเรื่องสำคัญ ที่จะผลักกันให้เกิดขึ้นในพื้นที่ เพื่อให้มีการเชื่อมโยงจังหวัดใกล้เคียงและในภูมิภาคอีสาน ขณะที่การพัฒนาด้านกีฬา ผมมองเห็นว่าชาว จ.เลย และคนไทยชอบการออกกำลังกายและเล่นกีฬา เมืองไทยควรจะมีมาตรฐานด้านการกีฬาสูงกว่านี้ ผมจึงมีแนวคิดที่จะเดินหน้าพัฒนาด้านการกีฬาอย่างเต็มรูปแบบ เหมือนอย่างที่เคยสร้างโรงเรียนกีฬาที่ จ.เลย มาแล้ว คือโรงเรียนกีฬาฟุตบอลและวอลเลย์บอล”
ส.ส.ป๊อก กล่าวด้วยว่า ภาพที่ตนเคยทำไว้คือการสร้างโรงเรียนกีฬาเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาสู่การเป็นกีฬาอาชีพ เช่น นักกีฬาฟุตบอล นักกีฬาวอลเลย์บอล โดยจะเริ่มรับนักเรียนกีฬาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เพื่อฝึกฝนทักษะ ประสบการณ์ สร้างชื่อเสียงให้โรงเรียนก่อน หากเด็กมีแวว มีความสามารถ อยากมีความมั่นคงในชีวิต ก็ให้การสนับสนุนต่อยอดเป็นนักกีฬาอาชีพ ซึ่งโรงเรียนกีฬาดังกล่าว จะเป็นบันไดไต่ขึ้นไปเป็นกีฬาอาชีพ สร้างชื่อเสียงและรายได้ในอนาคต
“ผมก็ไม่ต่างกับนักการเมืองทั่วไปที่มีความใฝ่ฝัน และอยากก้าวไปถึงจุดหมายที่เจริญก้าวหน้า ถ้ามีโอกาสได้ทำหน้าที่สำคัญก็จะมีอำนาจเต็มมือ สามารถบริหารงานในส่วนที่รับผิดชอบ ในกรอบกฎหมายอย่างเต็มที่ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของอนาคต ปัจจุบันขอทำหน้าที่ ส.ส.ของพี่น้องประชาชนชาว จ.เลย เขต 1 เพื่อให้สมกับที่ได้รับความไว้วางใจ และจะพยายามผลักดันโครงการต่างๆ ที่ให้สัญญาประชาคมกับพี่น้องประชาชน คือกระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึงเพื่อยกระดับการท่องเที่ยว สร้างเขื่อนน้ำลายในพระราชดำริ และพัฒนาสนามกีฬาให้ได้มาตรฐาน ซึ่งจะต้องเกิดขึ้นให้ได้ในสมัย“ ป๊อก-เลิศศักดิ์ พัฒนาชัยกุล ส.ส.เลย เขต 1 พรรคเพื่อไทย กล่าวทิ้งท้ายอย่างมุ่งมั่น
——————————
เสี่ยวหลงเปา