การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การใช้ชีวิต การทำงาน และการเดินทางสัญจรของเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การดำเนินชีวิตทั้งหมดของเรามีการเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่เราเรียกว่า ‘ความปกติใหม่’ หรือ ‘New Normal’ เราต้องเพิ่มการป้องกันตนเองในด้านสุขอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคมเมื่ออยู่ในพื้นที่สาธารณะ พร้อมความเปลี่ยนแปลงในด้านการเดินทางสัญจร ที่ต้องหลีกเลี่ยงจากระบบขนส่งมวลชนที่ผู้ใช้บริการอย่างแออัด จึงส่งผลให้การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลมีความจำเป็นและสำคัญเพิ่มมากขึ้น และ นี่คือ 5 เหตุผลที่ยืนยันว่าเพราะเหตุใด มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ จึงเป็นซิตี้คาร์ที่เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ในช่วงเวลาแบบชีวิตวิถีใหม่นี้
1.การเดินทางที่เหมาะสมในยุค ‘ชีวิตวิถีใหม่’ ถึงแม้ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมีแนวโน้มที่ชะลอตัว แต่การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนบุคคลกลับมีความสำคัญมากขึ้นเนื่องจากมีความปลอดภัยและเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในยุค ‘ชีวิตวิถีใหม่’ ที่ผู้คนต่างต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อตอบสนองความต้องการรถยนต์ส่วนบุคคลที่เพิ่มสูงขึ้น มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
จึงขอแนะนำวิธีการเดินทางที่ชาญฉลาด ปลอดภัย และคุ้มค่าด้วย มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ รถยนต์ซิตี้คาร์ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนเมืองในทุกช่วงอายุที่กำลังมองหาวิธีการเดินทางที่สะดวกสบายและคุ้มค่า มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ได้รับการออกแบบให้ตัวรถมีขนาดรถที่พอเหมาะสม มีความคล่องตัว และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ที่ให้ความประหยัดและมีประสิทธิภาพสูงสุด
2.ครบครันด้วยสมาร์ทฟังก์ชั่นและเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ทันสมัย มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกที่ครบครันสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันและการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงสุดสัปดาห์ ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับหน้าจอระบบสัมผัส Smartphone – Link Display Audio (SDA) ขนาด 7 นิ้ว ใหม่ ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนและรองรับระบบแอปเปิล คาร์เพลย์ พร้อมระบบสั่งการด้วยเสียง Siri และการเชื่อมต่อด้วยระบบบลูทูธ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ยังครบครันและสะดวกสบายด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายเทียบเท่า กับรถซีดานระดับบน อาทิ ระบบล็อกความเร็วบนพวงมาลัย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ระบบกุญแจอัจฉริยะ KOS
พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ กล้องมองภาพหลังขณะถอยจอด กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ และระบบไฟหน้าอัตโนมัติ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ครบครันด้วยเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย ได้แก่ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรงพร้อมระบบช่วยชะลอความเร็ว (FCM-LS) ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะเมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรงและรวดเร็วเฉพาะด้านหน้า (RMS-Forward) ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HSA) ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (ASC) และระบบป้องกันการลื่นไถล (TCL) มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ มาพร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้าสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า
รวมถึงระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS) พร้อมระบบกระจายแรงดันน้ำมันเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) ซึ่งทำงานประสานกันเพื่อมอบความมั่นใจให้ผู้ขับขี่บนทุกเส้นทาง รถยนต์ทั้งสองรุ่นยังติดตั้งระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS) อีกด้วย
3.มั่นใจได้ทุกการขับขี่ รถยนต์ทุกรุ่นของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มาพร้อมกับความมั่นใจทั้งในด้านคุณภาพ และค่าใช้จ่ายด้านบริการหลังการขายที่เหมาะสมภายใต้สโลแกน ‘เราดูแล คุณแค่ขับ’ ที่พร้อมให้บริการแก่ลูกค้าด้วยผู้จำหน่ายทั่วประเทศกว่า 240 แห่ง ด้วยการให้บริการที่ได้มาตรฐาน คุณภาพอะไหล่แท้ ให้บริการด้วยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญและผ่านการฝึกอบรม ตลอดจนความสะดวกสบายในการเข้ารับบริการด้วยเครือข่ายผู้จำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
พร้อมกันนี้ลูกค้ายังจะได้รับแพ็กเกจบริการหลังการขาย ‘Mitsubishi Service Package’ ประกอบด้วย ฟรีค่าบริการเช็กระยะ 5 ปี และฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 5 ปี โดยบริษัทฯ พร้อมยกระดับมาตรฐานการให้บริการหลังการขายเพิ่มขึ้นด้วยการมอบการรับ ประกัน 5 ปี และฟรีค่าแรงอีก 5 ปี ให้เป็นการรับประกันมาตรฐาน หรือ มั่นใจยิ่งขึ้นด้วยออพชั่นพิเศษ โปรแกรมขยายการรับประกันคุณภาพ Warranty Plus นานสูงสุดรวม 7 ปี เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจให้แก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ที่ไม่แพง และราคาขายต่อที่เหมาะสม
4.รางวัลการันตีความสำเร็จ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ สามารถคว้ารางวัล รถยนต์อีโคคาร์ 4 ประตู ราคาคุ้มค่ายอดเยี่ยม และรางวัล รถยนต์อีโคคาร์ ประหยัดน้ำมันยอดเยี่ยม ตามลำดับโดยรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นยังคงครองตำแหน่งรถยนต์ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว มากที่สุดในเซกเมนต์จากการประกวดรถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปีที่จัดขึ้นโดย บริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเจ็ดรางวัลรถยอดเยี่ยมแห่งปี 2564 ที่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้รับในปี 2564 นี้ ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ทุกรุ่นที่จำหน่ายในประเทศไทยสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯที่มุ่งมั่นนำเสนอรถยนต์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าชาวไทย ทั้งในด้านสมรรถนะ ความปลอดภัย และคุณภาพ
5.ร่วมกันช่วยเหลือสังคมของพวกเรา ลูกค้าสามารถเลือกซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ ซิตี้คาร์ เพื่อการเดินทางที่คุ้มค่าพร้อมมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือสังคม เนื่องในโอกาสฉลองการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบ 60 ปี ของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ลูกค้าทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของเราในแบบที่ยั่งยืน ด้วยการซื้อรถยนต์ มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ ‘สเปเชียล เอดิชั่น’ โดยบริษัทฯ จะบริจาคเงินจำนวน 2,000 บาทต่อคัน เพื่อร่วมบริจาคเงินให้แก่องค์กรการกุศลต่างๆ ตามปณิธาน 3 หัวข้อหลัก ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสุขอนามัยและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทย มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ
ยังคงมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมและตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยคุณสมบัติที่เหนือกว่าและครบครันทั้งในด้านเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก พร้อมด้วยความมั่นใจในการขับขี่และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้งสองรุ่นนี้ยังได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจและร่วมค้นหาความสำเร็จใหม่ๆ ภายใต้แนวคิดแบรนด์ระดับโลก ‘Drive your Ambition’ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ขอนำเสนอรถยนต์ซิตี้คาร์ทั้ง มิตซูบิชิ แอททราจ และมิราจ รุ่นต่างๆ ดังนี้ ราคาระหว่าง ราคาจำหน่ายของมิตซูบิชิ แอททราจ 494,000-584,000 บาท และ ราคาจำหน่ายของมิตซูบิชิ มิราจ 474,000-579,000 บาท