เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อให้ส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค พท. อ้างเหตุชะลอนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ว่าการกระทำดังกล่าวทำให้พรรค พท. ได้รับความเสียหาย สร้างความสับสนวุ่นวาย ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของผู้ที่ลงคะแนนเลือกตั้งผู้สมัคร ส.ส.พรรค พท. ยืนยันว่าพรรค พท. ไม่ได้กระทำการที่เป็นการหลอกลวงประชาชน

น.ส.ตรีชฎา กล่าวว่า ขอชี้แจงเพิ่มเติมอีกหลายประเด็น นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท เป็นนโยบายที่พรรค พท. ได้มีการวิเคราะห์ ผลกระทบ ความคุ้มค่า และความเสี่ยงอย่างรอบด้าน ซึ่งที่ผ่านมา นักร้องทั้งนายศรีสุวรรณ นายเรืองไกร หรือแม้แต่นายสนธิญา ก็เคยร้อง กกต. แต่ในท้ายที่สุด กกต. ปัดตกยกคำร้อง เพราะเป็นนโยบายที่พรรคการเมืองใช้หาเสียงเมื่อได้เป็นรัฐบาล ยืนยันว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่เคยเสนอไว้ตอนหาเสียง พรรค พท. ไม่ได้ยกเลิกและชะลอ แต่เป็นกระบวนการทางการเมืองในการฟอร์มรัฐบาล ซึ่งพรรคก้าวไกลในฐานะพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะเป็นหลักในการนำนโยบายว่าด้วยการให้สวัสดิการประชาชน พรรค พท. ชนะเลือกตั้งอันดับ 2 เมื่อกระบวนการเลือกนายกฯ แล้วเสร็จ ได้คณะรัฐมนตรี (ครม.) จึงมาร่วมกันจัดทำนโยบายแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งในตอนนั้นจึงจะมีชัดเจนในนโยบาย ดังนั้นการร้องของนายสนธิญา ที่กล่าวหาพรรค พท. หลอกลวง จึงคลาดเคลื่อนจากข้อจริง

นายสนธิญาเพิ่งจะมีจดหมายกราบขอโทษส่งถึง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย หลังถูกศาลอาญาพิพากษาจำคุก 6 เดือน ปรับ 5 หมื่นบาท โทษจำคุกให้รอลงอาญา และศาลแพ่งสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 2 ล้านบาท กรณีที่นายสนธิญาไปยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. และ กกต. ซึ่ง พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังไม่ให้อภัย เพราะต้องการให้นายสนธิญารับกรรมในสิ่งที่ทำไว้ แทนที่นายสนธิญาจะสำนึกว่าการร้องเรียนเพื่อสร้างความเสียหายให้กับฝ่ายตรงข้ามไม่หยุดไม่หย่อน จนตัวเองถูกศาลสั่งลงโทษ เหตุใดจึงยังไม่เข็ดหลาบ

หากพรรคการเมืองไม่ทำตามนโยบายที่หาเสียงเอาไว้ เหตุใดนายสนธิญาไม่ไปร้อง กกต. กรณีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อยู่มา 4 ปี ไม่สามารถทำตามนโยบายที่เคยหาเสียงไว้ตอนเลือกตั้งปี 62 ทั้งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400-425 บาท จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท นโยบายมารดาประชารัฐ ยกเว้นภาษี 5 ปี ลดภาษีบุคคลธรรมดา 10% และอีกหลายนโยบายที่ไม่ได้ทำตามที่หาเสียงไว้

ดังนั้นการกระทำของนายสนธิญา จงใจใส่ร้ายป้ายสี สร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นในสังคม เข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 101 ที่บัญญัติว่าผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมือง หรือบุคคลใดว่า กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยรู้อยู่ว่า เป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้่งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น

“ครั้งนี้พรรค พท. จะไม่ทน ไม่ต้องมาขออภัย เพราะที่ผ่านมารังแก กลั่นแกล้งกันเกินไป นักร้องต้องได้รับผลพวงของการกระทำของตัวเองที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่นเสียที” น.ส.ตรีชฎา กล่าว