จากกรณีหนุ่มวัย 40 ปี ร้องเรียนสื่อมวลชนถูกเพื่อนบ้านในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง สร้างโรงจอดรถบนถนนถนนสาธารณะหน้าบ้าน พร้อมติดตั้งหลังคาโครงเหล็กอย่างดี วอนเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเร่งบังคับใช้กฎหมาย หลังเจ้าบ้านคนก่อนร้องเรียนไปแล้วจนต้องขายบ้านทิ้ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งพบว่าเป็นบ้านทาวส์เฮาส์ 2 ชั้น ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบนายกอล์ฟ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกร้องเรียนเรื่องสร้างโรงรถล้ำบนถนนสาธารณะ เพื่อสอบถามถึงกรณีที่ถูกร้องเรียน
นายกอล์ฟ เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 2538 และสร้างโรงรถเมื่อปี 2541 แต่โครงสร้างโรงรถไม่ได้สร้างแบบถาวร และบ้านตรงข้ามเป็นบ้านของคุณตาที่อายุเยอะแล้ว และเป็นเจ้าของบ้านคนเก่า ต่อมาคุณตาเสียชีวิต บ้านหลังตรงข้ามก็ร้างไม่มีคนอยู่ประมาณ 3-4 ปี จนมีเจ้าของใหม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว
หัวจะปวด! เพื่อนบ้านเอา ‘ถนนสาธารณะ’ ทำที่จอดรถส่วนตัว พบคนเก่าร้องเรียนจนต้องขายทิ้ง
นายกอล์ฟ กล่าวต่ออีกว่า ตนได้รับแจ้งจากเทศบาลว่ามีคนร้องเรียน เรื่องกระถางต้นไม้และโรงจอดรถที่สร้างบนถนนหน้าบ้าน ซึ่งกระถางต้นไม้ตนเพิ่งสั่งซื้อมาวางเมื่อวาน ส่วนเรื่องโรงจอดรถตนรู้ว่ามันผิด และยินดีจะทำทุกอย่างให้มันถูกต้อง แต่บ้านหลังตรงข้ามบ้านตนเขาก็ต่อเติมเหมือนกัน ก็ต้องรื้อออกให้หมดเช่นกัน นัดช่างมารื้อพร้อมกันเลยก็ได้ ตนก็เข้าใจว่าบนถนนเป็นที่สาธารณะเอาต้นไม้อะไรมาวางแบบนี้ มาสร้างโรงจอดรถมันผิด ตนได้บอกเจ้าหน้าที่เทศบาลไปแล้วว่าจะขยับต้นไม้ให้
ด้าน นายอมร เที่ยงแท้ อายุ 52 ปี ประธานหมู่บ้านได้เดินทางมาดูโรงรถที่มีปัญหา กล่าวว่า สำหรับปัญหาที่บุกรุกถนนสร้างเป็นที่จอดรถ ค่อนข้างแก้ไขลำบาก เพราะไม่มีกฎหมายมารองรับ เพราะบ้านหลังในสุดของหมู่บ้านมีการรุกล้ำหมด เป็นมาตั้งแต่ประธานคนเก่า หลังจากเจ้าของหมู่บ้านสร้างเสร็จ ได้มอบเงินให้มาและมีหนังสือให้ไปจัดตั้งเป็นนิติบุคคล เพราะว่าหากมีการต่อเติมก็จะได้ดูแลกันได้ แต่ที่หมู่บ้านนี้ไม่ได้มีการจัดตั้งนิติบุคคล และไม่ได้ยกให้เทศบาลดูแล ตอนนี้หมู่บ้านก็เลยต้องช่วยดูแลกันเอง คือเก็บเงินรายเดือน เวลาถนน ไฟทางสาธารณะไม่สว่าง ก็ต้องซ่อมแซมกันเอง
นายอมร กล่าวต่ออีกว่า หมู่บ้านนี้ต่อเติมกันผิดหมดทุกหลังคา แต่หลังที่ทำโรงรถกลางถนน มันเกินไป เพราะมาสร้างต่อเติมโรงรถมาถึงครึ่งถนน ก็ต้องคุยกันถึงเรื่องกฎหมาย หรือให้เทศบาลเข้ามาไกล่เกลี่ยกับคู่กรณีทั้งสองฝ่าย ตนทำอะไรไม่ได้เพราะมีหน้าที่ดูแลแค่ไฟทาง จัดเก็บขยะ และเรื่องการทำความสะอาดเท่านั้น
มีรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมานายกอล์ฟ ได้มีการพูดคุยกับ นายภูเมธ ปานจันทร์ อายุ 40 ปี บ้านตรงข้ามที่ร้องเรียน แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ จนเกิดการโต้เถียงกัน ทำให้ผู้อยุ่ในเหตุการณ์ต้องช่วยเข้าห้ามปราม จากนั้นนายกอล์ฟ ได้รื้อกระถางต้นไม้ออกทั้งหมด ส่วนโครงสร้างหลังคายังไม่สามารถรื้อออกได้ เนื่องจากไม่มีเครื่องมือ ต้องใช้ช่างที่ชำนาญเป็นคนรื้อออก ซึ่งหลังจากนี้ทางเทศบาลเมืองบางคูรัด จะส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบและไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันพรุ่งนี้.