นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อผลักดันโครงการหัวหิน รีชาร์จ และแนวทางการเปิดเทศบาลเมืองหัวหินต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติแบบไม่กักตัว ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่า พร้อมให้การสนับสนุนการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามนโยบายนายกรัฐมนตรี โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ ถือเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินการตามแผน ซึ่งระยะที่ 1 คือ การเปิดภูเก็ตแซนด์บอกซ์ สมุยพลัสโมเดล จังหวัดพังงา และจังหวัดกระบี่ ในช่วงเดือนก.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนแผนระยะที่ 2 กำหนดเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้ จะมีการเปิดประเทศเพิ่มอีก 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ ชลบุรี (พื้นที่พัทยา บางละมุง สัตหีบ) เพชรบุรี (พื้นที่ชะอำ) ประจวบคีรีขันธ์ (พื้นที่หัวหิน) และเชียงใหม่ (พื้นที่อำเภอเมือง แม่แตง แม่ริม และดอยเต่า) โดยจะเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้เบื้องต้นในการเปิดพื้นที่หัวหิน รวมทั้งพื้นที่อื่น ๆ จะต้องดูความพร้อมในพื้นที่ประกอบกัน โดยเฉพาะวัคซีน ที่จะต้องฉีดให้ได้เกิน 70% ของจำนวนประชากรในพื้นที่ และหวังว่าถ้าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงต่อจากนี้ลดลง โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะติดตามสถานการณ์ไปจนถึงวันที่ 15 ก.ย.นี้ หากตัวเลขลดลงจากหลักหมื่นเป็นหลักพัน ก็อาจผ่อนคลาย เช่น เสนอให้ลดวันกักตัวจาก 14 วัน เหลือ 7 วันต่อไป
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ตอนนี้ได้ศึกษาแนวทางการจัดกลุ่มเพื่อรับการเปิดประเทศ ด้วยการกำหนดพื้นที่เป็นระดับสี หรือบลูโซนขึ้น โดยอาจผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ลงอีก เช่น อนุญาตให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ ซึ่งจะมีการศึกษาไปพร้อมกับการพิจารณาลดวันกักตัว ส่วนการท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น ตั้งแต่เดือนต.ค.เป็นต้นไป คาดว่าจะเห็นการท่องเที่ยวไทยกลับมาได้ และอาจผลักดันโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งเราเที่ยวด้วยกัน ระยะที่ 3 และทัวร์เที่ยวไทย ออกมาต่อไป