@@@@ รัฐนิวเซาท์เวลส์สร้างสถิติใหม่ เมื่อทางการประกาศยอดผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,533 ราย ใน 24 ชั่วโมง จนถึงเวลา 20.00 น. ในวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 มีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 4 ราย ผู้เสียชีวิตทั้ง 4 รายไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมาก่อนเลย ขณะนี้มีผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่รักษาในโรงพยาบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ 1,041 ราย มี 173 คน อยู่ในห้องผู้ป่วยหนัก ในจำนวนผู้ป่วยหนัก 173 คนในห้องไอซียูนี้ 137 คนไม่ได้รับวัคซีน 29 คนได้วัคซีนมาแล้วหนึ่งเข็ม อีก 7 คน ฉีดครบสองเข็ม และคนไข้ที่เหลืออีก 62 คน ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่
มุขมนตรีรัฐนิวเซาท์เวลส์ นางกลาดิส เบเรจิเคลียน คาดว่าการรักษาในโรงพยาบาลจะต้องยุ่งหนักเพิ่มขึ้นอีกในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เธอกล่าวว่า จากข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการฉีดวัคซีนและ Case สะสมของผู้ป่วย ชี้ชัดว่าเดือนตุลาคมน่าจะเป็นเดือนที่แย่ที่สุด จะเป็นแรงกดดันต่อระบบสุขภาพ “เราคาดว่าเดือนตุลาคมจะเป็นเดือนที่แย่ที่สุด เวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับแผนกผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลของเรา” นางเบเรจิเคลียน กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์
แม้ว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะอยู่ทางตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ของซิดนีย์ แต่สถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นในพื้นที่ส่วนภูมิภาคของรัฐ ซึ่งไวรัสยังคงแพร่กระจายอย่างต่อเนื่องนั้นสร้างความกังวลให้กับรัฐบาลนิวเซาท์เวลส์เพิ่มขึ้น ในเมืองเล็กๆ ของวิลแคนเนีย Wilcannia ซึ่งมีประชากรพื้นเมืองอะบอริจิน มากกว่า 60% และอยู่ห่างจากซิดนีย์ไปทางตะวันตก ประมาณ 950 กม. ผู้คนเกือบ 100 คนมีผลตรวจเป็นบวกในช่วงการระบาดของเดลต้าของรัฐนิวเซาท์เวลส์นี้ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ทำให้จำนวนผู้ป่วยในวิลแคนเนียรวมเป็น 97 ราย มีเพียง 745 คนที่อาศัยอยู่ในชุมชนนี้ ซึ่งหมายความว่าประมาณ 13 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนในเมืองนี้ติดเชื้อไวรัส เมื่อบ่ายวันเสาร์รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ได้ส่งรถบ้าน motorhome 30 คัน ออกไปบริการในที่จอดรถคาราวานท้องถิ่นเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อในวันจันทร์ โดยบริเวณที่จอดรถนี้จะทำหน้าที่เป็นสถานที่กักกันสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในที่อยู่อาศัยที่แออัดยัดเยียดในชุมชน Wilcannia เพื่อแยกตัวออกจากครอบครัว เพื่อหยุดการแพร่กระจายของไวรัสในครัวเรือน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากองค์กรด้านสุขภาพของชาวอะบอริจินส่งจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ระบุว่าการรับมือการแพร่ระบาดในวิลแคนเนียนั้น จำเป็นต้องมีที่พักเพิ่มเติม ปัญหาที่อยู่อาศัยที่แออัดยัดเยียดเป็นกุญแจสำคัญในการวางแผนปกป้องชุมชนพื้นเมืองในกรณีที่เกิดการระบาด ไม่เช่นนั้นจะลุกลามโกลาหล หน่วยงานทางการแพทย์ของชนพื้นเมืองแห่งชาติกล่าวว่าไม่ทราบว่าเหตุใดรัฐบาลของรัฐจึงต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการจัดตั้งที่พักเพิ่มเติมในวิลแคนเนีย
ในพื้นที่ภูมิภาคอื่นๆ มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 38 รายในเขตท้องถิ่น (LHD) ตะวันตกของรัฐนิวเซาท์เวลส์ รวมถึง 22 รายในดับโบ Dubbo และอีก 9 รายในบอร์ก Bourke ใน Hunter New England LHD มีผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย โดย 10 รายอยู่ในเขตปกครองส่วนท้องถิ่นของพอร์ตสตีเฟนส์ Port Stephens ใน Illawarra Shoalhaven LHD มีผู้ป่วยรายใหม่ 17 รายโดย 12 รายอยู่ใน Wollongong มีผู้ป่วยรายใหม่ 15 ราย ในชายฝั่งตอนกลาง Central Coast LHD รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข รัฐนิวเซาท์เวลส์ นายแบรด ฮาซซาร์ด กล่าวว่า เมื่อวานนี้ว่า เป็นวันที่ยุ่งที่สุดเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ของรัฐสำหรับบริการรถพยาบาลของรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยเน้นย้ำถึงแรงกดดันจากการระบาดใหญ่ที่มีต่อระบบสุขภาพของรัฐ “ผมจะบอกกับทุกคนว่า ถ้าคุณป่วย แน่นอน คุณต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน แน่นอนว่าคุณควรโทรไปที่ 000 แต่ผู้บัญชาการหน่วยรถพยาบาล Commissioner for Ambulance คุยกับเราที่นี่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วหรือสัปดาห์ก่อนหน้า และเขากำลังได้เน้นกรณีที่ผู้คนใช้รถพยาบาลเพื่อต้องการสิ่งอื่น ๆที่ไม่จำเป็น ไม่ฉุกเฉินจริงๆ” เขาเรียกร้องให้ประชาชนประหยัดการโทรสำหรับรถพยาบาลในสถานการณ์ฉุกเฉินจริงๆเท่านั้น โดมินิก มอร์แกน ผู้บัญชาการหน่วยรถพยาบาล กำลังพิจารณาแผนการที่จะนำเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินในส่วนอื่นๆมาช่วยขับรถพยาบาลเนื่องจากมีแนวโน้มว่าจะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างไม่ลดละ นาย Hazzard กล่าวว่าเขาสนับสนุนแผนการนี้อยู่
เมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 มีการวัคซีนป้องกันโควิด-19 เกือบ 130,000 ราย ทั่วรัฐนิวเซาท์เวลส์ โปรแกรมการฉีดวัคซีนพิเศษในวันพรุ่งนี้ “super Sunday” vaccination blitz สำหรับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และหน่วยบริการฉุกเฉินซึ่งอาศัยอยู่ในเมือง 12 LGA ของซิดนีย์ ซึ่งรัฐบาลห่วงใยนั้น รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวย้ำว่า “ผมต้องการเน้นว่าเจ้าหน้าที่ดูแลสุขภาพ บุคลากรทางการแพทย์ โรงพยาบาล และเจ้าหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุในโรงพยาบาลจาก 12 LGA เหล่านี้เป็นเรื่องที่น่ากังวล คุณสามารถจองได้ในโปรแกรม super Sunday นั้นได้ในวันพรุ่งนี้”
ส่วนทางด้านรัฐวิคตอเรีย พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในท้องถิ่น 190 ราย ใน 24 ชั่วโมง จากผลการตรวจ 49,584 ราย ที่ดำเนินการเมื่อวันศุกร์ที่ 3 กันยายน 2564 วิกตอเรียบันทึกผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ใน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 103 รายเชื่อมโยงกับการระบาดหรือกรณีที่รู้จักกันดี ยังไม่ชัดเจนว่ามีผู้ป่วยจำนวนเท่าใดอยู่ในชุมชนในขณะที่ติดเชื้อ อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อควบคุมจำนวนเคสที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และผู้ที่ใกล้ชิดกับพวกเขา ศาสตราจารย์ เบรตต์ ซัตตัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐวิกตอเรีย เตือนว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่อาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับในรัฐนิวเซาท์เวลส์ อันเนื่องมาจากผู้คนที่ล่าช้าในการทดสอบและฝ่าฝืนกฎการปิดเมือง กรณ๊ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้นสวนกระแสการล็อคดาวน์ของรัฐอย่างเช้มงวด
รัฐนิวเซาท์เวลส์สร้างสถิติใหม่ เมื่อทางการประกาศยอดผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,533 ราย ในขณะที่รัฐวิคตอเรีย พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ในท้องถิ่นรายวัน 190 ราย กรณีเคสเพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้นสวนกระแสการล็อคดาวน์ของรัฐที่เช้มงวด
@@@@ สถานกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์ ขอส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวไทย โดยมอบถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในพื้นที่ต่าง ๆ ดังนี้ เมือง Newcastle (ถุงยังชีพ 100 ถุง) ในวันศุกร์ 3 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ร้าน Bangkok Nights (37 Beaumont St, Hamilton) เมือง Ashfield (ถุงยังชีพ 100 ถุง) ในวันเสาร์ที่ 4 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป ร้าน Thai Number One (12 Charlotte St, Ashfield) ใน Thai Town (ถุงยังชีพ 100 ถุง) ในวันพุธที่ 8 กันยายน 2564 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป หน้าร้าน Chat Thai (20 Campbell St, Haymarket) ผู้ที่รับถุงควรเป็นผู้อาศัยอยู่ในละแวกเขตข้างต้น เพื่อปฏิบัติตามข้อบังคับของทางการรัฐ NSW ในการจำกัดพื้นที่ออกนอกบ้าน ทั้งนี้ โปรดปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขและระเบียบของทางร้านอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการของออสเตรเลีย สถานกงสุลใหญ่ฯ ขอขอบคุณชุมชนไทยและร้านค้าต่าง ๆ ที่ร่วมสนับสนุนและช่วยเหลือในการมอบสิ่งของแก่พี่น้องชาวไทย สถานกงสุลใหญ่ฯ จะมุ่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนไทยในพื้นที่ต่าง ๆ และจะแจ้งให้ทราบต่อไป
@@@@ โดยที่ กงสุลใหญ่ นายจักรกฤดิ กระจายวงศ์ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงอิสลามาบัด เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กระทรวงการต่างประเทศอยู่ในกระบวนการแต่งตั้งกงสุลใหญ่คนใหม่ โดยน่าจะมีข่าวดีแจ้งชาวไทยในซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ในเร็ววันนี้ ในช่วงนี้ รองกงสุลใหญ่ นายชาลี กาญจนกุญชร รักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ ได้ปฏิบัติภารกิจดูแลคนไทยเหมือนเดิม ชาวไทยในซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ สามารถติดต่อสถานกงสุลใหญ่ฯ ได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02 9241 2542 หรือสามารถเข้าถึงข้อมูลในการรับบริการต่างๆได้ผ่านทางเว็บไซต์ของสถานกงสุลใหญ่ ที่ https://sydney.thaiembassy.org/
มาทำความรู้จักคุ้นเคยกับรองกงสุลใหญ่ชาลี กันบ้างเล็กน้อย รองกงสุลใหญ่ชาลี จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต (LLB) จาก London School of Economics and Political Science นิติศาสตรมหาบัณฑิต (LLM) (กฎหมายระหว่างประเทศ) จาก London School of Economics and Political Science และปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (PhD) (กฎหมายระหว่างประเทศ) จาก University College London เข้ารับราชการในกระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. 2550 – 2553 นักการทูตปฏิบัติการ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย พ.ศ. 2553 – 2555 นักการทูตชํานาญการ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย พ.ศ. 2555 – 2559 เลขานุการเอก/ที่ปรึกษา คณะผู้แทนถาวรฯ ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พ.ศ. 2560-2663 นักการทูตชํานาญการ (ที่ปรึกษา) กรมสนธิสัญญาและกฎหมายพ.ศ. 2563 นักการทูตชํานาญการพิเศษ กรมสนธิสัญญาและกฎหมาย พ.ศ. 2563-ปัจจุบัน รองกงสุลใหญ่ ณ นครซิดนีย์
อยู่ระหว่างกระบวนการแต่งตั้งกงสุลใหญ่คนใหม่มาแทนคนเก่า โดยน่าจะมีข่าวดีแจ้งชาวไทยในซิดนีย์และรัฐนิวเซาท์เวลส์ในเร็ววันนี้ ในช่วงนี้ รองกงสุลใหญ่ นายชาลี กาญจนกุญชร รักษาราชการแทนกงสุลใหญ่ ได้ปฏิบัติภารกิจดูแลคนไทยเหมือนเดิม
@@@@ เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2564 นางสาวบุษฎี สันติพิทักษ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์รา ได้กล่าวเปิดการสัมมนาออนไลน์หัวข้อ “Why Thailand: Growth Opportunities for Australian Business in the heart of ASEAN” ซึ่งจัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครซิดนีย์ (สำนักงาน BOI ซิดนีย์) โดยมีนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน นาย Douglas Blunt ประธาน Australia – Thailand Business Council นาย Brendan Cunningham, Executive Director, AustCham Thailand และนาย Stuart Shaw, Chief Marketing Officer (Indochina),บริษัท DB Results ร่วมบรรยายด้วย
การจัดสัมมนาครั้งนี้มีขึ้นเพื่อนำเสนอศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการลงทุนและแหล่งประกอบธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้นักลงทุนและนักธุรกิจชาวออสเตรเลียได้รับทราบและพิจารณาโอกาสและมาตรการการจูงใจการลงทุนที่น่าสนใจในประเทศไทย ทั้งนี้ การสัมมนาดังกล่าวมีนักธุรกิจและนักลงทุนชาวออสเตรเลียสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 100 ราย
ในโอกาสดังกล่าว เอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวถึงแนวทางการรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของไทย อาทิ การจัดสรรและการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 การส่งเสริมการท่องเที่ยวจากต่างประเทศตามโครงการ Phuket Sandbox และ Samui Plus สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยซึ่งมีแนวโน้มที่ดีเพราะภาคการส่งออก รวมถึงทิศทางนโยบายฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยที่เน้นการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว (Bio – Circular – Green Economy Model) ซึ่งเป็นประเภทการลงทุนที่ออสเตรเลียมีจุดเด่นและสอดคล้องกับความต้องการของไทย ทั้งนี้ สามารถรับชมวิดิโอการสัมมนาฯ ย้อนหลังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=xr1YuTNOBaw
เอกอัครราชทูต ณ กรุงแคนเบอร์ราสนับสนุนการลงทุนของออสเตรเลียในไทย โดยเปิดการสัมมนาออนไลน์หัวข้อ “Why Thailand: Growth Opportunities for Australian Business in the heart of ASEAN” ซึ่งจัดโดยสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุน ณ นครซิดนีย์
@@@@ ฉบับนี้เดลินิวส์ขอแนะนำร้าน บางกอกน้อย Bangkok Noi Thai restaurant ที่ Hanhdorf ซึ่งเป็นของคู่ขยันแห่งนครแอดิเลด เชฟน้อย พูลสุข และชนกนันท์ สิงห์สถิตย์ ร้านนี้เป็นร้านที่สองของครอบครัวนี้ สามารถบรรจุลูกค้าได้ 60-70 ที่นั่ง เป็นการบริหารงานแบบครอบครัว เชฟน้อย เล่าว่า “ผมทำงานร้านอาหารตั้งแต่อายุ 13 ปีจนตอนนี้ 45 ปีแล้วครับ ผมกับแฟนเป็นเชฟ สะสมประสบการณ์เรื่อยมา โดยการสมัครเป็นเชฟตามร้านอาหารดังๆในกรุงเทพฯอยู่หลายปี ก่อนมาอยู่ที่นี่เราเปิดร้านขายส้มตำไก่ย่างวิเชียร ที่ ซอยนวลจันทร์ ร้านสิงห์ไทยเป็นร้านแรกของเราในออสเตรเลียครับ ใช้นามสกุลของตัวเองเป็นชื่อร้าน ร้านบางกอกน้อย นี้เป็นร้านที่สอง ช่วงเปิดร้านสิงห์ไทยใหม่ๆแฟนผมต้องทำงานที่อื่นไปด้วยเพราะว่ารายได้ยังไม่คงที่ แต่ทำไม่ถึง 10 เดือน แขกก็ติด ส่วนมากจะเป็นลูกค้าที่บอกกันปากต่อปาก อาหารน่าทานแล้วบอกต่อๆกัน ลูกค้าท้องถิ่นก็จะเป็นจากออฟฟิศละแวกนี้ เพราะสถานที่ตั้งของร้านอยู่ติดกับที่ทำงานหลายหน่วยงานของรัฐบาล เผลอแพรบเดียว เปิดร้านมา 5 ปีแล้ว ร้านจุได้ประมาณ 60 ที่นั่ง แต่มีห้องสำหรับจัดงานเลี้ยงปาร์ตี้ได้ นั่งได้ประมาณ 30 คน ถ้าหน้าร้อนก็สามารถนั่งหน้าร้านได้ บรรยากาศดีเพราะหน้าร้านเป็นสวนพักผ่อนแล้วใกล้ๆกับแหล่งช็อปปิ้งอีกด้วยครับ พอร้านอยู่ตัวเราก็คิดขยับขยายเพื่ออนาคต พอเราหยุด ลูกสองคนก็คนละร้านกันไปเลย”
ชนกนันท์ เล่าให้ฟัง อย่างเป็นเองว่า “เชฟน้อยเคยทำงานกับป้าจุ๊ จุรี โอศิริกับหม่อมเจ้าเนียลนิภา ได้วิชามาเยอะ ร้านเราเป็นธุรกิจครอบครัวทำกันเอง ตัวนันท์เองก็เป็นเชฟมาเกือบ10 ปี ทำให้คนอื่นได้รางวัลมาเยอะแล้วขอทำเองบ้าง ลูกชายคนโต น้องคิม วุฒินันท์ สิงห์สถิตย์ ตอนนี้ก็เป็นคนดูแลร้านใหม่นี่ เขาบริการแขกเก่ง ส่วนคนเล็ก กิติศักดิ์ ก็อยู่ดูแลร้านเดิม อาหารยอดนิยมของที่นี่ ก็ มีอาหารพื้นบ้าน เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ส้มตำปูนิ่มทอด น้ำตกคอหมูย่าง ต้มแซบ ลาบเป็ด ปลากะพงนึ่งมะนาว แกงเผ็ดเป็ดย่าง เป็ดกรอบราดซอสมะขาม ช่วงนี้อยากแนะนำ ยำวุ้นเส้นทะเลรสแซบ อร่อยมากๆ ผัดป่าปลากะพง รสชาติไทยจริง ลูกค้าติดใจทุกรายที่มาลองผัดเผ็ดที่นี่ และอื่นๆตามสั่งมากมายเพื่อให้คนไทยที่อยู่ห่างไกล ได้มารับประทานอาหารไทยแบบอาหารสำหรับครอบครัวหรือ เพื่อนๆเป็นมาเป็นกลุ่มใหญ่ เมนูอาหารทั้งสองร้านก็จะคล้ายๆกัน ทั้งร้านบางกอกน้อยและสิงห์ไทยยินดีให้บริการทุกๆท่านด้วยความเป็นกันเอง ผ่านมาแถวนี้แวะมานะคะ” ร้าน สิงห์ไทย Singh Thai Restaurant อยู่ที่ 33 Hindmarsh Square, Adelaide SA 5000 โทร. 82240969, 0432147982, และ 0466627133 ร้าน บางกอกน้อย Bangkok Noi Hahndorf ตั้งอยู่ที่ 13 – 15 Mount Barker Rd., SA 5245 โทร. (08) 7280 0021
ร้าน บางกอกน้อย Bangkok Noi Thai restaurant ที่ Hanhdorf ซึ่งเป็นร้านใหม่ของ พูลสุข และชนกนันท์ สิงห์สถิตย์ ร้านนี้เป็นร้านที่สองของครอบครัวนี้ สามารถบรรจุลูกค้าได้ 60-70 ที่นั่ง เปิดให้การบริการแล้ว หลังจากเปิดร้านแรก สิงห์ไทย มาได้ครบปีที่ 5
เมนูที่หลากหลายของร้าน บางกอกน้อย Bangkok Noi Thai restaurant ที่ Hanhdorf อาทิ ส้มตำ ไก่ย่าง ส้มตำปูนิ่มทอด น้ำตกคอหมูย่าง ต้มแซบ ลาบเป็ด ปลากะพงนึ่งมะนาว แกงเผ็ดเป็ดย่าง เป็ดกรอบราดซอสมะขาม ยำวุ้นเส้นทะเลรสแซบ ผัดป่าปลากะพง ก๋ซยเตี๋ยวเรือ
ไตรภพ ซิดนีย์
[email protected]