ศึกพรีเมียร์ลีกซีซั้นนี้ ปิดฉากเช็กบิลไปเรียบร้อย หลัง อาร์เซนอล ดันบุกไปแพ้ นอตติงแฮม ฟอเรสต์ 0-1 ในเกมนัดรองสุดท้ายของซีซั้นของพวกเขา ส่งแชมป์ให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี ไปโดยดุษฎี

จะว่าไปก็ไม่ได้เหนือความคาดหมายอะไร แม้ “ปืนใหญ่” จะอยู่บนบัลลงก์จ่าฝูงมานาน แต่เมื่อ “เรือใบสีฟ้า” แซงแล้วย่อมยากที่จะโดนแซงคืน

และพอ แมนฯ ซิตี แซงได้ เป็นมวยไทย บรรดาเซียนบนล็อคก็สารภาพ เช็กบิลกันไปตั้งแต่จบยก 4 แล้ว…!

แต่เมื่อมองย้อนกลับไป นี่ไม่ใช่ฤดูกาลที่ง่ายของ เปป กวาร์ดิโอลา และลูกทีมเลย แม้คู่แข่งหน้าเดิมอย่าง ลิเวอร์พูลจะดร็อปลงไป แต่พวกเขามีคู่แข่งหน้าใหม่ที่ชื่อว่า อาร์เซนอล 

“ปืนใหญ่” ของ มิเกล อาร์เตตา ยืนระยะได้ดีผิดวิสัยในช่วงหลายปีหลัง ที่พวกเขามักจะมา ๆ หาย ๆ แต่ซีซั่นนี้ พวกเขายืนเด่นเป็นสง่าอยู่บนบัลลังก์จ่าฝูงยาวนานถึง 247 วัน แต่สุดท้ายพวกเขาก็เริ่มตบะในช่วงสำคัญ 

หลังเกมที่ แมนฯ ซิตี บุกชนะ ฟูแลม 2-1 ในนัดที่ 32 ของพวกเขาเมื่อ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา ตำแหน่งจ่าฝูงจึงเปลี่ยนมือ 

สำหรับ แมนฯ ซิตี นั้น ซีซั่นนี้มีหลายช่วงที่พวกเขาฟอร์มหลุด แต่ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาเกาะหลัง อาร์เซนอล มาตลอดไม่หลุดโค้งไปไหน คือการมี เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ที่เข้ามาปุ๊บก็ยิงระเบิดระเบ้อปั๊บ 

บวกกับการที่ เปป โชว์ความเป็นกุนซือสมองเพชร ด้วยการคิดค้นระบบการเล่นใหม่ 3-2-4-1 ที่ลงล็อคเหลือเชื่อ และทำให้ทีมติดเครื่องวิ่งฉิวในช่วงโค้งสุดท้าย อีกทั้งขนาดของขุมกำลังที่ยังคงมีตัวตายตัวแทนที่ใกล้เคียงกันในแทบทุกตำแหน่ง พวกเขาจึงแซงเข้าป้ายไปได้อีกครั้ง 

หลายคนอาจจะมองว่า แมนฯ ซิตี ได้แชมป์อีกแล้ว ได้แชมป์จนเบื่อ แต่อย่างที่บอก อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็ต้องฮ้อเต็มเหยียดจนถึงช่วงโค้งสุดท้าย กว่าจะแซงผ่านได้ ผิดกับหลายซีซั่นที่พวกเขาเข้าป้ายแบบทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น 

มองเผิน ๆ มันอาจเหมือนจะง่าย แต่มันไม่ง่ายเลยจริง ๆ

ผยองเดช