สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. ว่า พญ.มาร์กาเรต แฮร์ริส โฆษกองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เกี่ยวกับการที่คณะผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้เผยแพร่รายงานการวิจัย เกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา "ซี.1.2" ( C.1.2 ) ซึ่งมีการกลายพันธุ์ซ้ำซ้อนกันหลายชั้นและหลายจุด ว่าดับเบิลยูเอชโอจับตาการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาทุกสายพันธุ์อย่างใกล้ชิด
ในส่วนของสายพันธุ์ซี.1.2 นั้น ยังไม่ได้รับการจัดเข้าสู่กลุ่ม "สายพันธุ์น่าวิตกกังวล" ของดับเบิลยูเอชโอ และคณะทำงานติดตามยังไม่พบสัญญาณบ่งชี้ชัดว่า เชื้อซี.1.2 มีอัตราการแพร่กระจายเพิ่มขึ้นและรวดเร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ศ.ริชาร์ด เลสเซลส์ หนึ่งในนักระบาดวิทยาชื่อดังของแอฟริกาใต้ ซึ่งเป็นผู้ร่วมจัดทำรายงานการวิจัยเรื่องเชื้อซี.1.2 ให้ความเห็นว่า "มีข้อบ่งชี้" ว่าเชื้อซี.1.2 อาจมีคุณสมบัติหลบหลีกการทำงานของวัคซีน และระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายได้ดีกว่าเชื้อเดลตา โดยประเมินในเบื้องต้นจากรูปแบบการกลายพันธุ์ แต่ยังคงต้องศึกษาอย่างละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ แอฟริกาใต้ซึ่งเป็นประเทศแรกที่มีการยืนยันเชื้อกลายพันธุ์เบตา พบเชื้อซี.1.2 เป็นครั้งแรกด้วย เมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ปัจจุบันพบผู้ป่วยในแทบทุกจังหวัดของแอฟริกาใต้ และอีกอย่างน้อย 7 ประเทศ ในทวีปแอฟริกา ทวีปยุโรป ทวีปเอเชีย และภูมิภาคโอเชียเนีย.
เครดิตภาพ : AP