นายชุมพล สุรพิทยานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดพาณิชย์ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (โออาร์) เปิดเผยว่า โออาร์ ได้ปรับซีลของถังก๊าซหุงต้มเป็นซีลสีทอง ที่โดดเด่นสังเกตได้ง่ายยิ่งขึ้น พร้อมสัญลักษณ์โออาร์ และรหัสฝาซีล 10 หลัก เพื่อให้มั่นใจว่าก๊าซทุกถังได้ผ่านมาตรฐาน 6 ขั้นตอนการควบคุมคุณภาพความปลอดภัย ตั้งแต่การเช็กสภาพถังให้อยู่ในสภาพที่ดีตามมาตรฐานที่กำหนด การล้างถังทำความสะอาดก่อนนำไปบรรจุก๊าซ โดยต้องบรรจุก๊าซให้ตรงตามขนาดถัง มีการชั่งน้ำหนักให้ถูกต้องตามมาตรฐาน ก่อนเช็กรอยรั่ว เพื่อตรวจสอบรอยรั่วซึมของตัวถังอีกครั้ง ปิดท้ายด้วยการซีลวาล์วอย่างแน่นหนาด้วยผนึกซีลสีทอง ก่อนออกวางจำหน่ายเป็นก๊าซหุงต้มคุณภาพส่งต่อถึงมือผู้บริโภค
นอกจากนี้ได้เปิดตัวแคมเปญคืนกำไรให้กับผู้บริโภค และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายก๊าซหุงต้ม ปตท. ด้วยโปรโมชั่นแจกทองเป็นกองฉลองซีลทองใหม่ เมื่อซื้อก๊าซหุงต้ม ปตท. ที่ใช้ซีลใหม่สีทอง แล้วนำรหัสบนซีลทอง 10 หลัก มาลงทะเบียนร่วมสนุกผ่านทาง www.pttlpgluckydraw.com พร้อมกรอกข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องตามเงื่อนไข ลุ้นรับรางวัลใหญ่ เช่น ทองคำแท่งหนัก 1 กิโลกรัม ทองคำแห่งหนัก 10 บาท ทองคำแท่งหนัก 5 บาท รถจักรยานยนต์ รวมมูลค่ารางวัล 11 ล้านบาท ระยะเวลาร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.-30 พ.ย. 64
ติดตามการประกาศรายชื่อผู้โชคดีผ่านทาง www.pttlpgluckydraw.com, Facebook page : “จุดพลังความอร่อย by ก๊าซหุงต้ม ปตท.” และ Line Official Account OR ครั้งที่ 1 วันที่ 21 ตุลาคม 2564, ครั้งที่ 2 วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564, ครั้งที่ 3 วันที่ 23 ธันวาคม 2564 และครั้งที่ 4 วันที่ 30 ธันวาคม 2564
น.ส.ชมกมล พุ่มพันธุ์ม่วง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ กล่าวว่า ได้พัฒนาถังก๊าซหุงต้มเวิลด์แก๊ส ขนาด 8 กิโลกรัมขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดยุคปัจจุบัน ทั้งการเติบโตของที่พักอาศัยยุคใหม่ที่มีขนาดพื้นที่ครัวเล็กลง การเกิดผู้ประกอบการร้านอาหารแบบรถเข็นหรือสตรีทฟู้ดรายใหม่ๆ หรือแนวโน้มของผู้ที่นิยมกิจกรรมแคมปิ้ง รวมทั้งการที่ผู้บริโภคต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
“จากเดิมที่เวิลด์แก๊สมีถังขนาด 7 และ 9 กิโลกรัมอยู่แล้ว ถังขนาดใหม่ 8 กิโลกรัม จึงอยู่กึ่งกลางพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ตอบโจทย์ทั้งด้านข้อจำกัดของพื้นที่ตั้งถังก๊าซขนาดเล็ก น้ำหนักที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก คุ้มค่ากว่า ด้วยราคาที่ประหยัดกว่า โดยปัจจุบัน ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ เป็นผู้นำอันดับ 2 ในตลาดก๊าซหุงต้มแอลพีจีทั้งในภาคอุตสาหกรรม และภาคครัวเรือน ด้วยส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 18% มีจำนวนถังก๊าซที่อยู่ในตลาด ขนาด 4 กิโลกรัม อยู่ที่ 2.1 ล้านถัง, ขนาด 13.5 กิโลกรัม อยู่ที่ 580,000 ถัง และขนาด 15 กิโลกรัม อยู่ที่ 3.4 ล้านถัง และขนาด 48 กิโลกรัม อยู่ที่ 360,000 ถัง”
ทั้งนี้ ถังก๊าซขนาด 8 กิโลกรัม ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคได้ลงตัวยิ่งขึ้น ทั้งกลุ่มผู้ค้าอาหารรถเข็น หรือสตรีทฟู้ดที่มีเงินทุนจำกัด กลุ่มครัวเรือนขนาดเล็กที่ปริมาณการใช้น้อย ไม่ได้ใช้เป็นประจำทุกวัน กลุ่มผู้บริโภคที่มีข้อจำกัดของสถานที่ตั้งถังก๊าซในที่พักอาศัย ด้วยความสูง 31 ซม. สามารถจัดเก็บเข้าตู้ซิงค์ในห้องครัวได้ หรือใช้เป็นถังสำรอง รวมทั้งกลุ่มผู้นิยมกิจกรรม Camping ที่ต้องการความสะดวกในการขนย้าย