เมื่อวันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.พีระ ราศรี สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (24 มี.ค.) ได้รับแจ้งจาก น.ส.เสา (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี ชาวชุมชนหนองขอนกว้าง เทศบาลนครอุดรธานี ว่าถูกคนร้ายมาขโมยตัดสายไฟฟ้าบริเวณหน้าอาคารพาณิชย์ เลขที่ 43/24 ถนนศรีสุข เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่ตนเป็นเจ้าของ และกำลังให้ช่างเข้าปรับปรุง จึงไม่มีไฟฟ้าใช้ จึงประสานให้ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ปูน 2 คูหา 3 ชั้น ตั้งอยู่ตรงข้ามสถานีตำรวจภูธร จ.อุดรธานี
น.ส.เสา ได้นำ พ.ต.ท.พีระ ชี้จุดที่คนร้ายมาขโมยตัดสายไปจำนวน 4 เส้น ยาวเส้นละ 1.5 เมตร ราคาประมาณ 2,000 บาท ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมต่อ จากเสาไฟฟ้าเข้าสู่หม้อแปลงในตัวอาคาร ต่อมาเจ้าของตึกได้ติดต่อให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.อุดรธานี มาซ่อมบำรุงต่อสายไฟฟ้าให้ใช้งานได้ตามปกติ
น.ส.เสา เล่าว่า ในช่วงที่ช่างมาทำการปรับปรุงตึก ยังใช้งานไฟฟ้าได้ตามปกติ แต่พอช่วงเช้าช่างจะมาทำงานต่อ ก็ไม่สามารถใช้งานได้ ผู้รับเหมาเลยมาตรวจสอบสายไฟฟ้าด้านหน้าตึก พบว่าถูกขโมยตัดสายไฟหายไป จึงโทรศัพท์มาบอกตน เพื่อให้มาตรวจสอบและไปแจ้งความ ตนรู้สึกตกใจไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพราะอาคารนี้อยู่ตรงข้ามกับสถานีตำรวจเพียงแค่ถนนขั้นกลาง คิดว่าน่าจะปลอดภัย โจรกล้ามากที่ลงมือก่อเหตุ ขนาดอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีตำรวจ ยังไม่เกรงกลัวตำรวจเลยแม้แต่น้อย
“อยากให้คนร้ายที่มาก่อเหตุเลิกพฤติกรรมลักขโมย มีอาชีพอื่นให้ทำอีกเยอะ อย่ามาทำแบบนี้เลย มันอันตรายต่อชีวิตด้วย และคนอื่นก็ต้องมาเดือดร้อนกันไปหมด และก็อยากฝากถึงคนที่รับซื้อของเก่า น่าจะดูออกว่าคนเอาไปขายนั้นขโมยมาหรือไม่ ถ้ารู้ว่าขโมยมา ก็น่าจะแจ้งเบาะแสให้กับตำรวจ ซึ่งฝากตำรวจด้วยว่า ให้จับกุมคนร้ายมาให้ได้ เพราะขนาดอยู่ฝั่งตรงข้ามโรงพัก โจรก็ยังไม่เว้น” น.ส.เสา กล่าว
นายพันธ์เชิด ศรีเกตุ พนักงานช่างระดับ 5 การไฟฟ้าอุดรธานี กล่าวว่า เหตุการณ์คนร้ายตัดสายไฟในเขตเทศบาลนครอุดรธานี เกิดขึ้น 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ส่วนใหญ่จะพบว่าคนร้ายก่อเหตุกับบ้านที่ไม่มีคนอยู่อาศัย หรือบ้านร้าง พอเจ้าของกลับมาก็จะพบว่าสายไฟถูกตัดแล้ว ที่ผ่านมาคนร้ายตระเวนก่อเหตุแต่ไล่ตามไม่ทันพฤติการณ์คนร้ายจะขี่จยย.มากัน 2 คน ดูลาดเลาและจะมีเครื่องมือตัดสายไฟ และเมื่อสบโอกาสก็จะลงมือตัดสายไฟทันที
“ อยากให้ประชาชนสังเกตถ้าเป็นพนักงานการไฟฟ้าจะมา 2-3 คน จะขับรถยนต์ของหน่วยงานสวมใส่ชุดเครื่องแบบชัดเจนแต่ถ้าเป็นรถจักรยานยนต์ ขี่มาคนเดียวหรือไม่ได้ขับรถหน่วยงาน ให้คิดว่าเป็นคนร้ายไว้ก่อนอยากให้ขอตรวจสอบบัตรพนักงาน หรือโทรสอบถามไปยังสำนักงานไฟฟ้า ว่าให้พนักงานเข้ามาปฏิบัติหน้าที่หรือไม่เพราะมีความเสียหายกันทั้งทางการไฟฟ้าและของประชาชน”นายพันธ์เชิด กล่าว