เมื่อวันที่ 29 ส.ค. พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วย พ.ต.ท.เดี่ยว ศรีวิชัย สว.สส.สภ.เมืองน่าน รับตัวนายสักรินทร์ ชำนาญราษฎร์ หรือ เสี่ยบ็อบ อายุ 59 ปี อดีตเจ้าของเต็นท์รถน่านยูสคาร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดน่าน รวม 62 หมายจับ คดียักยอกทรัพย์ รวมมูลค่ากว่า 35 ล้านบาท ภายหลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ “คอมมานโด” บุกจับตัวได้ที่บ้านพักย่านยานนาวา กรุงเทพฯ พ.ต.ท.จักรพงษ์ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 นายสักรินทร์ หรือ เสี่ยบ็อบ ได้ทำธุรกิจเต็นท์รถร่วมกับ นางดอกรัก สิทธิ อายุ 46 ปี มีพฤติการณ์ขายรถโดยให้ผู้ซื้อกลุ่มเกษตรกรแบบผ่อนชำระเงินค่ารถเป็นรายปีผ่านทางเต็นท์หลังขายผลผลิตทางการเกษตรได้แล้ว โดยทางเต็นท์รถจะแบ่งชำระค่างวดเป็นรายเดือนกับธนาคารเองอ้างว่าเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า
ผกก.สภ.เมืองน่าน เผยอีกว่า มีลูกค้าหลงเชื่อมากแต่ปรากฏว่า ต่อมาธนาคารมีหนังสือแจ้งค้างชำระเงินค่าเช่าซื้อรถยนต์จึงพากันเข้าแจ้งความตรวจสอบพบมีผู้เสียหายรวม 62 คน มูลค่าความเสียหายกว่า 35 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเต็นท์รถดังกล่าวปิดกิจการและเจ้าของเต็นท์รถหลบหนีไป สืบสวนพบนายสักรินทร์ และ น.ส.ดอกรัก เป็นเจ้าของจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับและจับกุม น.ส.ดอกรัก ได้ตั้งแต่ปี 2558 ส่วนนายสักรินทร์ หลบหนีไป กระทั่งเมื่อวาน (28 ส.ค.) รับแจ้งจากตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษว่าจับกุมตัวได้จึงรับส่งมอบตัวมาสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
