แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ ชื่นชมสปิริตลูกทีมที่ช่วยกันตีตั๋วผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศยูโร 2020 ได้สำเร็จ หลังเอาชนะยูเครนขาดลอย 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จากสองประตูของแฮร์รี เคน, ลูกโหม่งจากแฮร์รี แม็คไกวร์ และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ซึ่งเป็นการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายในยูโรเป็นครั้งแรกในรอบ 25 ปี
“เราแสดงผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมมาก ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่เป็นตัวจริงเท่านั้น แต่คนที่ลงมาทีหลังเช่นกัน ผมยังคิดถึงผู้เล่นที่ไม่ได้ไม่ได้ลงสนาม พวกเขาเป็นส่วนสำคัญมหาศาลในสิ่งที่เรากำลังทำ มันยากมากที่จะให้กลุ่มใหญ่ขนาดนี้ยังคงมีส่วนร่วม มีความสุข และรู้สึกมีคุณค่า พวกเขาวิเศษมากในการเสียสละตัวเองเพื่อทีม เราอยู่ในรอบรองชนะเลิศเพราะสปิริตนั้น แน่นอนว่าคุณภาพการเล่นนั้นสำคัญ แต่ผมเคยเห็นหลายประเทศที่ตกรอบเพราะไม่มีสปิริตแบบนี้”
อังกฤษ ที่ยังไม่เคยเข้าชิงชนะเลิศยูโรมาก่อน ผ่านเข้ารอบรองฯ ไปเจอกับ เดนมาร์ก ที่เอาชนะสาธารณรัฐเช็ก 2-1 ในวันที่ 7 ก.ค. เซาธ์เกต พูดถึงนัดต่อไปว่า “เรารู้ดีว่าเดนมาร์กคือทีมที่ดี และพวกเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วในทัวร์นาเมนต์นี้ เรามีประสบการณ์มากขึ้นทั้งทีมและบุคคล เราจึงต้องใช้มันในคืนวันพุธนี้ เราไม่เคยไปรอบชิงชนะเลิศยูโรและเป็นโอกาสสำหรับเราที่จะสร้างประวัติศาสตร์”
ขณะเดียวกันแฟนบอลอังกฤษเริ่มวาดฝันถึงการคว้าแชมป์ยูโรเป็นครั้งแรก ต่างโพสต์ ‘It’s coming home’ ซึ่งเป็นเพลงเชียร์ตั้งแต่ปี 1996 โดยทั้งรอบรองชนะเลิศ 7 ก.ค. และชิงชนะเลิศ 11 ก.ค. จะแข่งที่เวมบลีย์ ไม่ว่า นายซาดิ ข่าน นายกเทศมนตรีเมืองลอนดอน, สแตน คอลลีมอร์ อดีตกองหน้าลิเวอร์พูล, เลียม กัลลาเกอร์ ศิลปินชื่อดังและอีกมากที่ปลาบปลื้มกับเข้ารอบรองฯ และในถึงตำแหน่งแชมป์