เมื่อวันที่ 9 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านของนางฝน (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นแม่ของ น.ส.ฟ้า (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ หลังจากที่ได้คบหากับอดีตแฟนหนุ่ม อายุ 28 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี จนตั้งท้องและคลอดลูกออกมาได้ประมาณ 3 เดือน ก่อนอดีตแฟนได้หลบหนีไป ไม่ได้กลับมาเหลียวแลอีกเลย
โดยวันนี้ ได้มีบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่และชาวบ้านจำนวนมากภายในหมู่บ้าน ได้พากันไปผูกข้อต่อแขนให้กับลูกชายของ น.ส.ฟ้า ซึ่ง น.ส.ฟ้า ได้ตั้งชื่อให้ลูกชายว่า ด.ช.กัปตัน ซึ่งมีอายุครบ 3 เดือน โดยนางฝน ได้แกงไก่ใส่หยวกกล้วย แกงฟักทอง และแกงมะเขือใส่ไก่ เลี้ยงบรรดาผู้เฒ่าผู้แก่ที่เดินทางมาผูกข้อไม้ข้อมือให้กับลูกชายของ น.ส.ฟ้า ที่มีอายุครบ 3 เดือน และได้เงินจำนวน 4,720 บาท โดยเงินเหล่านี้ จะได้เก็บไว้ซื้อนมให้ลูกดื่มกิน
นางฝน บอกว่า หลังจากที่ตนได้พาลูกสาวไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.ศีขรภูมิ เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา แต่คดีก็ยังเงียบอยู่ โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่า คดีดังกล่าวมันเป็นคดีที่ละเอียดอ่อน มีที่มาที่ไปต้องมีประจักษ์พยานบุคคล ตลอดจนสหวิชาชีพ ทนายความ และผู้ที่มีความเกี่ยวข้องเข้ามาสอบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ ในขณะนี้ได้ออกหมายเรียกไปแล้ว 2 ครั้ง และยังไม่มา ครั้งต่อไปคงต้องออกหมายจับ นายเอ (นามสมมุติ) ที่อยู่ จ.สุราษฎร์ธานี มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
น.ส.ฟ้า ยังบอกอีกว่า หลังจากที่นายเอ ได้หนีไป ทิ้งความรับผิดชอบให้กับตนและครอบครัวที่ต้องลำบาก บ้านก็ต้องส่งธนาคารทุกเดือน พ่อต้องไปรับจ้างตัดอ้อย แม่ต้องทำงาน ส่วนตนร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะออกไปทำงานได้ เงินที่ได้มาจากการผูกแขนวันนี้ จะได้เก็บเอาไว้ซื้อนมให้ลูกดื่มกิน ซึ่งลำบากมากกับการดูแลลูก เขาเคยรับปากว่าจะมาดูแลเดือนละ 3,000 บาท และจะรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลับปล่อยให้เราลำบาก จนกระทั่งล่าสุด ไปมีแฟนใหม่พร้อมกับลงภาพในไอจีว่า ได้สมรสกับหญิงคนดังกล่าวแล้ว
“ไม่อยากจะคิดอะไร ฝากบอกไปถึงนายเอ ด้วยว่า ถึงว่าจะไปมีแฟนใหม่และได้จดทะเบียนสมรสกันแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไรกับสิ่งที่นายเอ ทำเอาไว้ ต้องออกมารับผิดชอบ ไม่ใช่ว่าทำแล้วทิ้งแบบนี้ แล้วหญิงอื่นที่คบเกรงว่าจะเป็นเหยื่อเหมือนกับตัวเอง และจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรีบดำเนินการให้เร็วที่สุด ถ้าหากว่าไม่มีอะไรคืบหน้า ก็คงคิดว่าจะเดินทางเข้าไปพบมูลนิธิปวีณาฯ อย่างแน่นอน เพื่อขอความช่วยเหลือให้กับตนเองและลูกที่กำลังเล็ก” น.ส.ฟ้า กล่าวทั้งน้ำตา