เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวกว่า อยู่ระหว่างขั้นตอนการทำเอกสารเพื่อขอเพื่อย้ายสำนวนคดี 7 นาย ที่ จ.นครสวรรค์ มาให้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากที่ผ่านมากองปราบฯ ได้เข้าร่วมปฏิบัติการกับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 และ จ.นครสวรรค์ มาโดยตลอดจึงมีความเข้าใจ และมีความคล่องตัวในการขยายผลไปถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และยืนยันว่าหากการขยายผลพบบุคคลใดเกี่ยวข้องเพิ่มเติมจะไม่มีการละเว้น
“ส่วนเรื่องคำให้การไม่ว่าผู้ต้องหาหรือผู้เกี่ยวข้องจะให้การอย่างไรถือเป็นสิทธิ แต่หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด รวมทั้งมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินของผู้ต้องหาทั้งหมด หลังสังคมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการร่ำรวยผิดปกติของ ผกก.โจ้ นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. ในฐานะกำกับดูแลงานด้านยาเสพติด ออกคำสั่งถึงผู้บังคับบัญชาทุกระดับไปทบทวนชุดสืบสวนยาเสพติดตั้งแต่ระดับสถานีตำรวจถึงกองบัญชาการ ไปตรวจสอบประวัติ และพฤติกรรมในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับยาเสพติด และให้ผู้บังคับบัญชารับรองความประพฤติเป็นรายๆ ไป โดยหากพบว่ามีบุคคลใดมีประวัติหรือพฤติกรรมไม่ดีเกี่ยวกับยาเสพติด หรือย่อหย่อน ก็ต้องเปลี่ยนตัว เพราะหากเกิดเรื่องร้องเรียนขึ้นมา ผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ” ผบ.ตร. กล่าว
พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวอีกว่า เรื่องความประพฤติผิดชอบชั่วดีของตำรวจผู้บังคับบัญชาต้องรับผิดชอบ ทำดีต้องได้ดี ทำไม่ดีต้องถูกลงโทษ ถ้าตำรวจเข้าใจแบบนี้ตนคิดว่าเขาก็จะตั้งใจทำงานมากขึ้น และหากพบตำรวจคนใดทำผิดกฎหมายจะต้องดำเนินการอย่างแน่นอนพร้อมทั้งยืนยันว่า ส่วนตัวไม่รู้สึกเครียดหรือโล่งใจที่สามารถจับกุมแก๊ง ผกก.โจ้ได้ เพราะเป็นหน้าที่ของตัวเองในฐานะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และมีอีกหลายเรื่องที่สังคมต้องการให้ดีกว่านี้.