ภาพวิถีชีวิตอันสงบ เรียบง่าย ของชุมชนชาวแพแห่งแม่น้ำสะแกกรัง “อุทัยธานี” เป็นความงดงามที่ผู้คนซึ่งมีโอกาสมาเยี่ยมเยือนสัมผัสได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเวลาเช้า สาย บ่าย เย็น เพียงแต่บรรยากาศของพื้นที่โดยรอบอาจแตกต่างไปในแต่ละช่วงเวลา

ยามเช้าหลายคนยอมตื่นแต่เช้าตรู่เพื่อมารอตักบาตรกับพระสงฆ์ที่พายเรือมาตามน้ำ ก่อนจะสัมผัสวิถีชุมชนผ่านตลาดยามเช้าที่แสนคึกคัก บางคนเลือกมายามบ่ายแก่ ๆ รอแสงสุดท้ายของวันค่อยลาลับขอบฟ้าไปพร้อมกับแสงสียามเย็นที่สะท้อนผืนน้ำเป็นสีทอง ที่ได้ชื่อว่า “แม่น้ำสะแกกรัง” นั้นเล่ากันว่าในอดีตพ่อค้าที่ล่องเรือผ่านมาจะรู้ว่าถึงบ้านสะแกกรังแล้ว เมื่อได้เห็นต้นสะแกออกดอกเล็ก ๆ ชูช่อยาวสีเขียวอมเหลือง ห้อยระย้าลงมาตามริมฝั่งน้ำในช่วงเดือนยี่ถึงเดือนสาม

ตามปกติกิจกรรมล่องเรือชมวิถีชาวแพทั้งในแบบเรือหางยาว และเรือที่มาพร้อมอาหารการกินแบบไปเรื่อย ๆ แต่วันนี้มีอีกกิจกรรมในการชมวิถีชาวแพอย่างใกล้ชิดกว่าเดิม ทั้งยังไม่ก่อมลพิษให้กับสายน้ำด้วยอย่างการพาย SUP หรือกระดานยืนพาย กิจกรรมทางน้ำที่กำลังฮิตไปทุกสายน้ำ โดยมีเส้นทางให้เลือก 2 เส้นทางโดยมีจุดเริ่มต้นเดียวกันที่ “วัดอุโปสถาราม” เดิมชื่อ “วัดโบสถ์มโนรมย์” ชาวบ้านเรียกว่า “วัดโบสถ์” วัดเก่าแก่อยู่ริมลำน้ำสะแกกรังที่ถือเป็นแลนด์มาร์กหนึ่งของลำน้ำสายนี้ โดยเฉพาะเจดีย์หกเหลี่ยม ย่อมุมไม้สิบสองทรงรัตนโกสินทร์ที่อยู่ริมน้ำ

เส้นทางที่ 1 วัดอุโปสถาราม – ศาลากลางจังหวัดอุทัยธานี ระยะทางประมาณ 5 กม. เป็นการพายแบบไป-กลับ ในเส้นทางเดิม โดยมีวิถีชุมชนชาวแพสองฝั่งให้ชม ส่วนเส้นทางที่ 2 วัดอุโปสถาราม – วัดภูมิธรรม ระยะทางประมาณ 5 กม. จะได้ชมทั้งวิถีชาวแพและสวนผลไม้ของชาวเกะเทโพที่อยู่อีกฟากฝั่ง โดยจะมีรถไปรอรับและกลับมาส่งที่วัดอุโปสถาราม สามารถติดต่อได้ที่ เพจ Shoooot SUP Uthaithani โทร.080-9201510 ราคา 300 บาท/คน/บอร์ด โดยมี 2 รอบ เช้า 07.00 น. และรอบบ่าย 16.00 น.

สำหรับสายแคมป์ปิ้ง อุทัยธานีถือเป็นหนึ่งจังหวัดที่เป็นสวรรค์ของชาวแคมป์ปิ้ง เพราะไม่เพียงมีลานกางเต็นท์หลากหลายรูปแบบไว้รองรับ แต่ยังสามารถเลือกพื้นที่ได้ตามความชอบด้วย เริ่มด้วย “หุบป่าตาดแคมป์ Hup Pa Tad Camp” ลานกางเต็นท์ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวป่าดึกดำบรรพ์อย่างหุบป่าตาด ที่เป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ พื้นที่กว่า 10 ไร่ อยู่ท่ามกลางหุบเขา อากาศเย็นสบาย สามารถกางเต็นท์ได้มากถึง 100 หลัง พร้อมห้องน้ำสะอาด และปลั๊กไฟจำนวน 8 จุด นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารตามสั่ง หมูกระทะ หมูจุ่ม และเครื่องดื่ม น้ำแข็งจำหน่าย ใครมากันเป็นหมู่คณะก็มีพื้นที่จัดกิจกรรมรองรับ หรือจะแค่ปลีกวิเวกมานอนเล่นรับอากาศเย็น ดูพระจันทร์และดวงดาวเต็มท้องฟ้าในยามค่ำคืนก็ได้ ค่าบริการกางเต็นท์จุดละ 100 บาท ติดต่อ คุณเบิร์ด 099 3315622

ส่วนลานกางเต็นท์วังทอง อำเภอลานสัก นอกจากจะได้ชิลกับการนอนฟังเสียงธรรมชาติพร้อมกับชมดาวยามค่ำคืนแล้ว ชุมชนบ้านวังทองยังเพิ่งเปิดตัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนแห่งใหม่ โดยดูแลผืนป่าพร้อมกับการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ โดยสามารถกางเต็นท์ที่พักริมเขื่อนระบำที่มีความกว้างกว่า 11,200 ไร่ และศึกษาธรรมชาติโดยรอบแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ด้วยการล่องเรือซึ่งสามารถสัมผัสกับความเป็นอยู่ของสัตว์ได้อย่างใกล้ชิดทั้งเวลาเช้าและเย็น

นอกจากลานกางเต็นท์ แล้วยังมี “บ้านต้นไม้” ซึ่งเป็นสถานที่ศึกษาชีวิตสัตว์ป่าแนวเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ที่จัดสร้างขึ้นบริเวณพื้นที่ทุ่งแฝก ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งเคยเป็นพื้นที่ที่ถูกบุกรุกแผ้วถางเพื่อทำการเกษตรเชิงเดี่ยวมาก่อน ปัจจุบันชาวบ้านได้ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวไปอยู่ในที่ที่ทางราชการจัดสรรให้แล้ว โดยบ้านต้นไม้

สามารถส่องสัตว์ได้ทั้งกลางวัน และกลางคืน สัตว์ที่จะมีโอกาสพบเจอได้จากบริเวณนี้ มีทั้งวัวแดง นกยูงป่า หมูป่า ช้างป่า สนใจติดต่อ ประธานวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวตำบลระบำ คุณท๊อป โทร. 0927875461

สอบถามเส้นทางท่องเที่ยวอื่น ๆ ของจังหวัดอุทัยธานี ได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานอุทัยธานี โทร. 056 514 651 หรือติดตามที่แฟนเพจ : ททท.สำนักงานอุทัยธานี