นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความก้าวหน้าการจัดตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์การมหาชน) ผ่านระบบ Zoom ว่า ขณะนี้คณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง อยู่ระหว่างดำเนินการแต่งตั้งข้าราชการในสังกัดกระทรวงคมนาคม ขึ้นเป็นผู้อำนวยการในระยะเริ่มแรก รวมทั้งต้องสรรหาประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ โดยจะต้องดำเนินการสรรหาให้แล้วเสร็จภายใน 180 วันนับจากวันที่ 13 ก.ค.64 ซึ่งพระราชกฤษฎีกามีผลบังคับใช้

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ยังอยู่ระหว่างดำเนินการเรื่อง บุคลากรที่จะมาช่วยดำเนินงานวิจัยในสถาบันวิจัยฯ โดยได้บูรณาการร่วมกับมหาวิทยาลัยท้องถิ่นที่มีโครงการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง และพิจารณานำผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่ได้ทำกรอบบันทึกความร่วมมือกับกระทรวงคมนาคม เพื่อมาช่วยตั้งต้นสถาบันวิจัยฯ ในระยะแรก ทั้งนี้ ได้มอบให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการพิจารณากำหนดในสัญญาที่จะลงนามใหม่ หรือพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดในสัญญาที่ได้ลงนามแล้ว โดยให้สถาบันวิจัยฯ ได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบรางจากเอกชนคู่สัญญา และให้ครอบคลุมถึงการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่เจ้าหน้าที่ หรือผู้ปฏิบัติงานของสถาบันวิจัยฯ ด้วย ซึ่ง ขร. จะติดตามความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวต่อไป

นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า สถาบันวิจัยฯ จะทำหน้าที่จัดทำยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีระบบรางของประเทศ วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ร่วมมือกับองค์กรทั้งในและต่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง พัฒนาบุคลากรด้านระบบราง และจัดทำฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีระบบราง โดยมีเป้าหมายเร่งด่วน คือ การวิจัยชิ้นส่วนในระบบรางเพื่อให้สามารถผลิตรถไฟในประเทศ (Local Content) ได้ตามนโยบาย Thai First รวมทั้งการวิจัยเพื่อสร้างรถไฟ EV มาใช้ในประเทศไทย พร้อมกับการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน

นายศักดิ์สยาม กล่าวด้วยว่า สำหรับโครงสร้างสถาบันวิจัยฯ แบ่งเป็น 7 ศูนย์ความเป็นเลิศ และ 1 สำนักงาน เพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงานของสถาบันวิจัย ได้แก่ 1.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟความเร็วสูง (Excellent Center of High Speed Rail Tech) ทำหน้าที่วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถ และบำรุงรักษารถไฟความเร็วสูง 2.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟขนส่งสินค้า (Excellent Center of Freight Rail Tech) ทำหน้าที่วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟขนส่งสินค้า

3.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านรถไฟฟ้าในเมือง (Excellent Center of Metro Rail Tech)  ทำหน้าที่วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี พัฒนาองค์ความรู้ด้านการเดินรถและบำรุงรักษารถไฟฟ้าในเมือง 4.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านแบตเตอรี่สำหรับรถไฟ (Excellent Center of Battery Power Tech) ทำหน้าที่วิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยีระบบพลังงานอนาคตสำหรับรถไฟ เช่น Battery รถไฟ EV เป็นต้น 5.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมระบบรางและการออกแบบสำหรับผู้โดยสาร (Excellent Center of Innovation Rail Tech) ทำหน้าที่วิจัย และพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระบบรางในอนาคต เช่น MAGLEV TOD เป็นต้น

6.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการพัฒนาบุคลากรระบบราง (Excellent Center of Training Center) ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้และฝึกอบรมเทคโนโลยีระบบราง เช่น รถไฟความเร็วสูง ความรู้ทางด้านรถไฟ เป็นต้น 7.ศูนย์ความเป็นเลิศด้านข้อมูลระบบราง (Excellent Center of Rail Data Center) ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลระบบรางทั้งระบบ เช่น งานวิจัยด้านระบบราง ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบราง องค์ความรู้ด้านระบบราง นอกจากนี้จะทำวิจัย พัฒนา รับและถ่ายทอดเทคโนโลยี ที่เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ที่ใช้ในระบบราง ระบบอาณัติสัญญาณ 5G และความปลอดภัยทางดิจิทัล และ 8.สำนักบริหารงานทั่วไป ทำหน้าที่บริหารงานทั่วไป ด้านการเงิน/การบัญชี บุคลากร สถานที่ รวมถึงการจดทะเบียนสิทธิบัตรการวิจัย.