เมื่อวันที่ 17 ก.พ. นายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 พรรคพลังประชารัฐ จ.ชัยภูมิ รุดเข้าแจ้งความ ร.ต.ท.นนท์พัทร์ บุดดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ ว่าได้รับคำสั่งจากนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ให้มาแจ้งความดำเนินคดีกับนายอร่าม โล่ห์วีระ นายก อบจ.ชัยภูมิ และยังเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีช่วยกระทรวงคมนาคม ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เนื่องจากนายอร่าม ได้นำเอาหนังสือเอกสารสั่งให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ นำป้ายหาเสียงออก โดยระบุว่า ไม่ใช่ว่าที่ผู้สมัครของพรรค ทั้งๆ ที่พรรคได้จัดวางตัวไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 และมีการลงนามในหนังสือ ให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ ทั้งเขต 1 และเขต 7 นำป้ายหาเสียงลง มาโพสต์ในกลุ่มไลน์ของ ส.จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเอกสารปลอม และเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา น.ส.จิตราภรณ์ กล้าแท้ อายุ 33 ปี ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 ซึ่งเป็นภรรยาของนายวสัน กล้าแท้ นายก อบต.บุ่งคล้า และยังเป็นผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ เขต 1 ได้เข้าแจ้งความเอาผิดกับนายอร่าม แล้วเช่นกัน
นายแพทย์ประสิทธิ์ กล่าวว่า หลังมีการนำเอกสารดังกล่าวมาโพสต์ในกลุ่มไลน์ ตนจึงได้สอบถามนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ รอง หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่พรรค และ พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยืนยันว่าไม่ได้เซ็นลงนามในหนังสือดังกล่าว จึงเชื่อว่าเอกสารดังกล่าวเป็นหนังสือปลอม จึงมาแจ้งความเอาผิดคนปลอมเอกสารห้ามหาเสียง ดังนั้นการที่มีบุคคลไปแอบอ้างและออกหนังสือส่งถึง สั่งให้ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ นำป้ายหาเสียงออกโดยระบุว่า ไม่ใช่ว่าที่ผู้สมัครของพรรค ทั้งๆ ที่พรรคได้จัดวางตัวไว้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 65 และมีการลงนามในหนังสือให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชัยภูมิ ทั้งเขต 1 และเขต 7 นำป้ายหาเสียงลงนั้น เป็นหนังสือปลอม ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการทำให้ตนเสียหายและยังเป็นการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
นายแพทย์ประสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ล่าสุดพบว่านายอร่าม กับพวก เพิ่งมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เมื่อวันที่ 5 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วนที่ตนออกมาระบุว่าเป็นหนังสือปลอม เนื่องจากหนังสือดังกล่าวมีการอ้างชื่อ พล.อ.วิชญ์ ซึ่งสมัครเป็นสมาชิกพรรค เมื่อวันที่ 25 ม.ค. ที่ผ่านมา และยังไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคแต่อย่างใด จึงได้สอบถามไปยังเจ้าตัวและรอง หัวหน้าพรรค กระทั่งทราบแน่ชัดว่าเป็นเอกสารหนังสือปลอม จึงแจ้งความดังกล่าว