เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ที่วัดเกาะแก้วเกษฎาราม ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูปลัดทวีศักดิ์ สนฺตกาโย เจ้าคณะตำบลพระนอน เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วเกษฎาราม นายกฤตพจน์ คงบุตร ไวยาวัจกรวัด และผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 ต.บ่อโพง อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าตรวจสอบภายในโบสถ์ หลังรับแจ้งพระลูกวัดว่าเงินที่ต้นกฐินของวัดถูกคนร้ายเข้ามาขโมยเอาไปจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่าที่ต้นกฐินประจำปี 2564 ของวัดที่ตั้งเอาไว้บริเวณด้านหน้า หลวงพ่อเพชร พระประธานของวัด ถูกคนร้ายขโมยเอาไปเลือกเอาแต่ธนบัตรฉบับละ 100 บาท จำนวนมากหายไป เหลือเอาไว้แต่ไม้เสียบธนบัตร ปักคาเอาไว้ที่ต้นกฐิน ส่วนธนบัตรฉบับละ 20 บาท และ 50 บาท ซึ่งมีจำนวนน้อย คนร้ายไม่นำเอาไป ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในโบสถ์ และด้านหน้าโบสถ์ ช่วงเวลาประมาณ 08.59 น. พบเห็นหญิงสาวอายุประมาณ 50 ปี ผมยาว สวมเสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสีม่วง เดินตรงเข้าไป ภายในโบสถ์ แล้วไปที่ต้นกฐิน จากนั้น เลือกแกละเอาธนบัตร ที่เสียบเอาไว้ที่ต้นกฐิน อย่างใจเย็น แล้วเดินมานับเงินก่อนที่จะเดินออกไป
พระครูปลัดทวีศักดิ์ สนฺตกาโย เจ้าอาวาสวัดเกาะแก้วเกษฎาราม กล่าวว่า หญิงสาวคนนี้พระและชาวบ้านเห็นเดินวนเวียนอยู่ในชุมชนและวัดมาได้ประมาณ 2-3 วัน ลักษณะท่าทางเหมือนคนมีอาการป่วยทางจิต เดินพูดคุยคนเดียว เข้ามาเข้าออกวันมาเอาน้ำดื่มไปกิน อยู่ทุกวัน เลยไม่คิดว่าจะมีพิษภัยอะไร จนช่วงเย็นพระลูกวัดมาปิดโบสถ์พบว่าเงินที่ต้นกฐินซึ่งเป็นแบงก์ใบละ 100 บาทหายไปจำนวนหลายใบ ประมาณ 900-1,000 บาท จึงได้มาเปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่าหญิงสาวคนนี้มาขโมยไปจริงๆ หากไม่มีเงินมีอาหารไม่ข้าวกิน มาขอพระก็พร้อมช่วยเหลืออยู่แล้วเพราะทุกวันนี้วัดช่วยเหลือญาติโยมทุกทางในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะผู้ป่วยและผู้ที่ต้องกักตัว ฝากถึงโยมมาทำแบบนี้ รู้สึกสงสารคงมีความจำเป็น ทางพุทธศาสนาถือว่า เป็นการผิดศีล 5 เป็นบาปที่จะติดตัวโยมไป และเป็นการมาขโมยทรัพย์สินของวัด ของที่ญาติโยมบริจาคร่วมทำบุญมา ส่วนเรื่องของคดีความเมื่อเกิดขึ้นแล้วทาง ไวยาวัจกรวัด ซึ่งเป็นผู้ใหญ่บ้าน คงต้องดำเนินคดีไปตามกระบวนของกฎหมาย”