ถูกสนใจไม่จบไม่สิ้นสำหรับเรื่องการขายบ้านที่อยู่มากว่า 33 ปีขอนักแสดงรุ่นใหญ่ หนุ่ม-สันติสุข พรหมศิริ ที่ล่าสุดมาเปิดใจสาเหตุประกาศขายบ้านพร้อมที่ดินที่แท้จริง พร้อมเผยเส้นทางความรักกว่า 25 ปีกับภรรยา ตาล ณิชกานต์ ในรายการคุยแซ่บ SHOW ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

หนุ่ม เผยว่า “เรื่องบ้านที่คนมองว่าขายเพราะโควิดไม่ใช่เพราะอยากย้ายซอย เอาจริงๆจะพูดอย่างนั้นก็ได้ เพราะตอนนี้ไม่ได้ทำงาน ไม่ได้ถ่ายละคร ยังมีคาราอยู่ 2 เรื่อง คาซังอยู่เรื่องหนึ่ง แล้วรอเปิดอีก 3 เรื่องทำอะไรไม่ได้เลย แล้วมีรายการที่เปิดกับน้องเป๊กกี้ ก็หมดวาระไป ทุกวันนี้ไม่มีรายได้ ก็ใช้เงินเก็บอย่างเดียว และก็มีข่าวออกมาว่าหนีพิษโควิดจะไปอยู่เชียงราย จริงๆ แล้วบ้านที่เชียงราย ผมซื้อและสร้างไว้ 20 กว่าปีแล้ว เพราะว่าตอนนั้นไปถ่ายละคร แล้วเห็นว่าสวยดีก็เลยซื้อไว้ แล้วก็มีการต่อเติมจนมีไร่มีนา เราก็ทำตามเศรษฐกิจพอเพียง มีพื้นที่ 20 ไร่ ก็มีปลูกข้าวสามไร่ ปลูกไม้ใหญ่ เลี้ยงปลา เลี้ยงไก่  ถามว่าเรามีการนำพื้นสร้างรายได้ไหม ก็ให้คนที่เฝ้าอยู่เขามีรายได้ คือเราก็ให้ที่เขาไปทำกิน เขาก็เฝ้าที่ให้เรา พอช่วงปีใหม่ อากาศดีๆ หนาวๆ เราก็พาลูกไปตกปลาบ้าง ไปดำนาบ้างจะได้รู้ว่าเขาปลูกข้าวกันอย่างไร ลูกก็ชอบ ปีหนึ่งก็ไป 2-3 ครั้ง ถามว่าจะมีโอกาสไปอยู่ถาวรไหม เราก็มีวางโครงการไว้ ว่าวันหนึ่งถ้าลูกเต้าเราสบายแล้วเราก็อาจจะไปอยู่นานหน่อย แต่ถ้าให้ไปอยู่เลยเราคงไปอยู่ไม่ได้”

“เรื่องภรรยาอายุห่าง 10 ปี ไปเจอกันที่กองถ่าย ตอนนั้นเขามาเป็นเอ็กซ์ตร้า เขายังเรียนหนังสืออยู่ เรียนอยู่ปี 4 เป็นพระเอกนางเอกเราอย่าไปยุ่งกับเขาเลย เอ็กซ์ตร้าดีกว่า ก็เหมือนตลก เขาไม่จีบนักร้อง เขาจีบเด็กเสิร์ฟ อันนี้พูดเล่นๆ แต่จริงๆ ก็คือ ตอนนั้นที่เรามาเจอภรรยา เราโสดอยู่ โสดมาหลายปีแล้ว ครั้งแรกที่เจอเขาก็ธรรมดาทั่วไป เพราะตอนนั้นก็เป็นพ่อพวกมาลัยนิดหนึ่ง เพราะว่าโสดและเล่นหนัง เล่นละคร และเรายังเป็นพระเอกอยู่ ซึ่งสมัยก่อนโซเชียลมันยังไม่รุนแรง นักข่าวสมัยก่อนจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของนักแสดง เลเวลพ่อพวงมาลัยของผมเหรอ ก็เหมือนทั่วไป เวลาเจอผู้หญิงสวยก็อยากไปจีบ ถ้าเลเวลระดับร้อย เราให้ตัวเอง เก้าสิบ ตอนที่จีบภรรยา เราก็คิดว่าอายุเราก็ไม่น้อยแล้ว เราจะไปจีบรุ่นเดียวกัน ส่วนใหญ่ก็จะแต่งงานไปหมดแล้วก็เลยต้องมาจีบรุ่นเด็กๆ ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร ยังไม่คิดเรื่องมีครอบครัว”

“เรื่องช่องว่างระหว่างวัย แรกๆ ก็ไม่มีปัญหาคือ 20 กว่า กับ 30 กว่า มันกำลังดีเพราะดูช่วงอายุจะเท่าๆ กัน แต่ถ้าเป็น 40 กว่า กับ 50 กว่า จะดูห่าง ซึ่งคุณพ่อภรรยาผมดุมาก เขาหวงลูกสาวมาก เพราะว่าโดยอาชีพของเราเป็นดารา เป็นนักแสดง เป็นพระเอกอีก ใครมีลูกสาวเขาก็หวงทั้งนั้นแหละ เขาก็กลัวว่าเราจะไปชอบลูกสาวเขาจริงหรือ เรื่องการจีบภรรยากลางกองถ่ายสมัยก่อนการที่นักข่าวจะเข้าไปในกองถ่ายมันเป็นเรื่องยากมาก ถ้าทางกองไม่อนุญาตเขาก็เข้าไม่ได้ เพราะมันเป็นพื้นที่ส่วนตัว นักแสดงอาจจะนอนอ่านบทอยู่กับพื้น อาจจะกินข้าวโดยใช้ชามพลาสติก ซึ่งภาพมันอาจจะไม่น่ามอง แล้วเราก็ไม่คิดอะไรเพราะเราโสดอยู่ การที่เราจะจีบใครมันก็ไม่ผิดอะไร”

หนุ่ม เล่าต่อว่า “ส่วนใหญ่จะใช้สายตา ผมว่าแค่มองเขาก็รู้แล้วล่ะว่าเราจะจีบเขา เอาจริงๆตาลจะไม่เหมือนคนอื่น ดูเผินๆ เขาก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไป แต่เขาเป็นคนจริงจัง ดูเรียบร้อยไม่เหมือนวัยรุ่นทั่วไป หลังจากที่คบกันได้ 6 ปี ก็ไปมาหาสู่ เราก็ทำตามกระบวนการทุกอย่าง เราก็เห็นว่าเขาเป็นคนที่จับต้องได้ เขาเหมาะที่จะเป็นแม่ของลูก เขาไม่เหลาะแหละ จริงใจ พูดตรง และมีมุมมองในการใช้ชีวิตตรงกัน ตอนแต่งงานที่เพื่อนผมงงๆ ก็คือคนเราก็มีจุดลิมิตของตัวเอง พอเราใช้ชีวิตโสดเต็มที่ พอถึงจุดหนึ่ง เราจะรู้สึกพอแล้ว เพราะเราก็ผ่านอะไรมาเยอะ เราควรจะมีครอบครัวได้แล้ว แล้วเราก็มาเจอคนที่ใช่เราก็ควรจะหยุด คือผู้ชายเจ้าชู้ได้อะไร แต่พอแต่งงานแล้วต้องหยุด ต้องให้เกียรติผู้หญิง ไม่ใช่แต่งงานแล้วค่อยๆ ซา”

“ตอนนี้เรื่องที่ภรรยาไม่ไว้วางใจคือก็อาจจะเป็นด้วยอายุที่ห่างกัน ตอนเป็นแฟนไม่เท่าไหร่ แต่พอเป็นครอบครัวต้องอยู่ด้วยกันตลอด โดยอาชีพของเราเขาอาจจะไม่เข้าใจ อย่างเรื่องแหวนแต่งงาน บางทีเราไปถ่ายละคร บางเรื่องตัวละครที่เราแสดงไม่ได้แต่งงานเราก็ต้องถอดเก็บ แต่พอภรรยาเขาดูเห็นเราไม่ใส่แหวนก็คิดว่าเราไม่อยากให้ใครรู้ว่าแต่งงานแล้วใช่ไหม กลับมาเราก็อธิบาย อยู่ๆ ไปเขาก็เริ่มเข้าใจ มันก็เรื่องธรรมดาที่เขาเข้าใจยาก เรื่องหึงหวง ก็มีบ้างเพราะเราหน้าตาดี โดยอาชีพของเราเวลาไปไหนมาไหนก็จะมีคนเข้ามาขอถ่ายรูป คือเราก็เห็นใจเขาเหมือนกันเวลาออกไปไหนแล้วมีคนเข้ามาขอถ่ายรูป ขอกอดหน่อย และบางทีไปต่างจังหวัด ไปเจอคุณยายเขาก็จะถามว่า คุณหนุ่มวันนี้คุณจินตราไม่มาเหรอ คือเราเข้าใจนะ ว่าแฟนคลับเขาอินกับหนัง แต่ภรรยาเราก็อยู่ข้างๆ
แต่งงานกับภรรยามากี่ปีแล้ว”

“คู่เราคบกัน 6 ปี แต่งมา 19 ปี รวม 25 ปี ก็อยากจะบอกตาลนะว่า ขอบใจมากๆ เลยที่มาเป็นภรรยาพี่ และมาเป็นแม่ของลูกๆ ทั้ง 3 คน รู้เลยว่าตาลเหนื่อย เพราะบางทีพี่ก็มีโลกส่วนตัวเยอะ คนเป็นนักแสดงก็เป็นแบบนี้แหละเพราะต้องใช้จินตนาการเยอะ บางทีก็ต้องทำอะไรผิดพลาดไปบ้าง ก็ต้องขอโทษด้วย”