จัดเป็นอีกหนึ่งนักร้องที่มากความสามารถอย่างมากมายสำหรับ “เบิ้ล-ปทุมราช”  เพราะถึงแม้วิกฤติโควิด-19 จะทำงานในสายอาชีพนักร้องต้องหยุดชะงักลง แต่หนุ่มเบิ้ลโชคดีกลับมีโอกาส ทำงานในวงการบันเทิงมากขึ้น ทั้งงานละครกระสือลำซิ่ง ทางช่อง 8 งานพิธีกร และคอมเมนเตเตอร์ ซึ่งเป็นงานที่หนุ่มเบิ้ลบอกว่าไม่ถนัด แต่กระแสตอบรับดีจากแฟนๆ ไม่แพ้งานนักร้องเลยก็ว่าได้

โดยล่าสุดหนุ่มเบิ้ลได้ออกมาเคลียร์ดราม่าด้วยสำหรับประเด็นดราม่าร้อนฉ่าหลังจากโพสต์ภาพคู่รถป้ายแดง เลยโดนชาวเน็ตแซะว่า รวยแต่ไม่เห็นบริจาคสิ่งของ พร้อมอัพเดทสถานะหัวใจกับน้อง “แครี่ แคโรไลน์” แบบหมดเปลือก ว่าช่วงนี้ยังหวานกันเหมือนเดิมหรือเปล่า

เบิ้ล เผยว่า “เรื่องรูปคู่รถป้ายแดง จริงๆแล้วมีเยอะนะครับ ส่วนใหญ่คนที่ไปคอนเมนต์ว่า ทำไมคุณรวย คุณมีชื่อเสียง คุณถึงไม่บริจาคของ ผมว่าจริง ๆ  แล้ว กลุ่มคนพวกนี้เราต้องดูที่มาที่ไปของเขาด้วย บางคนเขาอาจจะสร้างเฟซบุ๊กเป็นอวตาร เพื่อมาปั่นให้เรารู้สึกว่าอยากโมโหกับเขา แต่บางคนเขาก็อาจจะไม่รู้ว่าเราทำหรือไม่ทำ เพราะฉะนั้นเบิ้ลเชื่อว่า การที่เราทำหรือไม่ทำ เรารู้ตัวเรา เราไม่จำเป็นที่จะไปบอกเขาหรือไปคาดหวังอะไรในตัวผู้อื่น เราทำด้วยตัวของเราเองดีกว่า พอโควิดมาเรื่องงาน ถ้าเป็นเรื่องของคอนเสิร์ต หรือว่าการเล่นดนตรีกลางแจ้ง คอนเสิร์ตในผับหรือว่างานต่างจังหวัดต่างๆ ต้องบอกว่ามีผลกระทบมากครับ เพราะด้วยสถานการณ์ตอนนี้มันไปแสดงไม่ได้ ทีมงานนักดนตรี ทีมงานแดนเซอร์ต่างๆก็จะต้องพัก เหมือนผมก็ต้องพักด้วย”

แต่งานที่ดูเยอะของผมนั้น ถ้าพูดถึงเรื่องงานบันเทิง งานพรีเซ็นเตอร์ งานซิทคอมละคร งานรายการทีวี คอมเมนเตเตอร์ ก็ถือว่ายังมีเยอะครับ ในปีนี้เป็นปีที่มีโควิด แต่งานบันเทิงมีเยอะกว่าตอนที่ยังไม่มีโควิดเข้ามา เพียงแต่เป็นงานที่เราไม่ได้ถนัด ถ้าเป็นสมัยก่อน คนจะเรียกเบิ้ลว่าเป็นนักร้องในวงการใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้เราทำงานจนเรากลายเป็นคนในวงการบันเทิง มันก็เลยทำให้เราได้มีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่างมากขึ้น แล้วคนเขาก็ชอบ อย่างตอนที่ช่วงโควิด-19 ยังไม่หนักขนาดนี้ ผมก็ได้ไปเล่นละครของพี่เชียร์ เรื่องกระสือลำซิ่ง ทางช่อง 8 กับพี่เค้าด้วย ซึ่งผมกับพี่เชียร์ก็สนิทกันอยู่แล้ว แต่พอเราไปเล่นจริง ๆ ก็ต้องยอมรับว่ายากเหมือนกันแอบเกร็งมาก ๆ ก็ต้องรอติดตามได้รับชมเร็ว ๆ นี้แน่นอน ก็เรียกว่าโอกาสหลากหลายขึ้น และเป็นความสามารถที่ถึงแม้ไม่ถนัด แต่ก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่เราก็สามารถทำได้ ก็เลยได้มีเงินเลี้ยงดูครอบครัว ช่วยเหลือนักดนตรี ทีมงาน รวมไปถึงได้ช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดที่ลำบากกว่าเรา”

เบิ้ล เล่าต่อว่า “ส่วนเรื่องรักแฮปปี้ครับ น้องเขาอยู่ที่นู่นเขาก็สบายดี ยังคุยกันทุกวันครับ แล้วมีโอกาสก็ได้เจอกันที่เมืองไทย แต่ว่า กว่าจะได้เจอก็กักตัว 14 วัน เขาก็มาอยู่ประมาณเดือนสองเดือน เขาก็กลับ แล้วก็ไปกักตัวต่อ เรื่องแพลนแต่งงาน ยังไม่คิดหรอกครับ เลี้ยงดูตัวเองยังไม่รอดเลย (หัวเราะ) จริงๆการที่จะมีแพลนแต่งงานมันต้องมองถึงอนาคต ทั้งลูก หรืออะไรต่างๆ ทั้งบ้าน ที่อยู่อาศัย การงาน ซึ่งตอนนี้มันยังไม่ลงตัวขนาดนั้น เรายังสนุกกับวงการบันเทิง ยังสนุกกับการทำงาน น้องเขาก็ยังสนุกกับการค้นคว้าชีวิต แล้วก็เป็นคนชอบผจญภัยคล้ายๆกัน ก็เลยคิดว่าถ้าเราแต่งงาน หรือว่าวางแผนอนาคตไว มันอาจจะทำให้เราร่นเวลาความสุขที่จะได้ผจญภัยลงมา ก็เลยยังอยากทำตัวเป็นเด็กก่อนครับ เพราะว่าเราเพิ่ง 25 เองครับ น้องเขาเพิ่ง 21 ครับ”

“ผมเองก็อยากขอเป็นกำลังใจนะครับ ให้พี่น้องที่ประสบภัยของโควิด-19 ผมเชื่อว่า ณ ตอนนี้ ให้ได้ดีที่สุดคือกำลังใจ ส่วนคนที่มีมากกว่า มีโอกาสหาเงิน มีช่องทางในการกักตุนสิ่งของ หรือการบริจาคต่างๆ ก็อยากให้ช่วยๆกัน อย่างผมเองก็ มีโอกาสทำหลายพื้นที่นะครับ อาจจะมีโพสต์ภาพบ้าง ไม่โพสต์บ้าง บางทีเราทำแต่ไม่กล้าที่จะโพสต์ ผมไม่อยากให้คนมองว่า เราเอาความลำบากเป็นบันไดแห่งการสร้างคอนเทนต์ประมาณนี้ครับ มันอยู่ที่จิตใจของเรา ผมเชื่อว่า ถ้าเราทำภาพที่ดีแล้วช่วยเหลือประชาชน ผมว่าทำไปเถอะครับ มันไม่มีใครว่าเราได้ ก็เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ”