เมื่อวันที่ 30 ม.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการหารือกับ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เกี่ยวกับการเตรียมการจัดการเลือกตั้ง ภายหลังกฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับประกาศใช้ เมื่อถามว่าจะมีโอกาสยุบสภาก่อนช่วง 45 วันหลังกฎหมายลูกมีผลบังคับใช้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ช่วงระยะเวลา 45 วัน แปลว่า คิดถึงความสะดวกจัดการเลือกตั้งได้สบายๆ ภายในระยะเวลา 45 วัน แต่บางครั้งการยุบสภาเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองที่ยึดความสะดวกและเอาสบายอย่างเดียวไม่ได้ ทั้งนี้ ถือเป็นการดีที่ได้มีการประกาศใช้กฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั้งสองฉบับไปแล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาจากนี้ไปคือ กกต.ต้องลงมือแบ่งเขตเลือกตั้ง จากเดิม 350 เขต มาเป็น 400 เขต ที่สำคัญบางจังหวัดจำนวนประชากรเพิ่ม บางจังหวัดลดลง ดังนั้น จะกระทบจำนวน ส.ส.

ทั้งนี้ การแบ่งเขต ถ้า กกต.แบ่งเองวันเดียวเสร็จก็ได้ แต่ต้องให้ กกต.จังหวัดรับฟังความคิดเห็นจากประชาชนและพรรคการเมืองในจังหวัดนั้นๆ ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 1 เดือน จึงอาจเป็นเดือน ก.พ.ทั้งเดือน อาจเร็วกว่านั้นก็ได้ถ้าแต่ละจังหวัดรายงานกลับมาเร็ว และหลังจากนั้นยุบสภาเมื่อไหร่ แต่จะให้เร็วเหมือนใครคิดว่าเมื่อ พ.ร.ป.เลือกตั้ง ประกาศ แล้ว ยุบๆได้แล้ว เห็นรัฐบาลเงียบๆ ยุบได้แล้วให้รีบยุบ ซึ่งถ้ายุบตอนนี้จัดการเลือกตั้งไม่ได้ เพราะยังไม่รู้ใครลงเขตไหนยังไง

เมื่อถามว่า แสดงว่าหลังวันที่ 28 ก.พ. มีโอกาสยุบสภาได้เลยใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่าเมื่อไหร่ก็ได้ 29 ก.พ.ก็ได้ ย้ำว่า 45 วันคือเอาแบบสบายๆ แต่ได้เรียนไปว่าบางครั้งการเมืองไม่สามารถเอาสบายๆ ได้ ยุบสภาเป็นวิกฤติการณ์การเมือง ไม่สามารถยุบสภาก่อนการรู้เขตเลือกตั้งได้ เพราะถ้ายุบสภาแล้วต้องประกาศวันเลือกตั้งทันที ซึ่ง กกต.เป็นผู้กำหนดไม่ใช่รัฐบาลกำหนด ซึ่งต้องผ่าน 3 ด่าน คือ ด่านแรกต้องออกพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ด่านที่ 2 กกต.ต้องประกาศวันเลือกตั้ง และด่านที่ 3 ประกาศวันสมัครรับเลือกตั้ง ดังนั้นเท่ากับต้องรู้เขตเลือกตั้งแล้วเรียบร้อย ถ้าหากซิกแซ็กแบ่งเขตก็จะเกิดปัญหาได้ เช่น บ้านซอยเดียวกันคนละเขต หรือเรียกว่าเป็นการแบ่งเขตตามใจชอบชิงความได้เปรียบเสียเปรียบ รู้ว่าคนหมู่บ้านนี้ไม่ชอบก็แบ่งเขตเอาหมู่บ้านนี้มา แบ่งเขตตามใจชอบแบบสะเปะสะปะ

อย่างไรก็ตามตนจะนำเรื่องนี้กราบเรียนนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบในวันพรุ่งนี้ (31 ม.ค.) แต่จะพูดแค่ ครม.ไม่ได้ ต้องส่งสัญญาฯ ทั้งประเทศ เพราะยังมีพรรคการเมืองที่ไม่ได้นั่งอยู่ในตึกสันติไมตรีด้วยทุกคนต้องรู้แบบเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีแผนสำรองหากยุบสภาแล้วไทม์ไลน์เลือกตั้งจะไปตรงกับวันหยุดที่รัฐบาลประกาศหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่กระทบอะไร ก่อนประกาศวันหยุดก็ถาม กกต.ก่อนแล้ว ทั้งนี้ ย้ำว่าการแบ่งเขตไม่ใช่เรื่องเล็ก เพราะเปลี่ยนจาก 350 เขต เป็น 400 เขต เปลี่ยนไปถึง 50 เขต บางจังหวัด ส.ส.ลดลง บางจังหวัด ส.ส.เพิ่มขึ้น ดังนั้น ถือว่ากระทบมากจึงต้องใจเย็นๆ

เมื่อถามว่าแต่ยังมีบางส่วนที่ไม่เข้าใจและมองว่ารัฐบาลยื้อเวลา นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ยื้อเลย ดังนั้นขอให้กรุณาทำความเข้าใจกับประชาชนให้ด้วยว่าไม่ได้ยื้ออะไรทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่ง กกต.และองค์กรอิสระกำหนด

เมื่อถามว่า หลังจากนี้จะนัดคุยกับ กกต.อีกเมื่อไหร่ นายวิษณุ กล่าวว่า คาดว่าในสัปดาห์นี้ กตต.จะส่งร่างประกาศเล็กๆ น้อยๆ มาให้อีก 4 ฉบับ ข้อที่ 1 ว่าด้วยระเบียบวิธีการแบ่งเขต ข้อที่ 2 ว่าด้วยระเบียบวิธีทำไพรมารี ข้อที่ 3 ว่าด้วยระเบียบ การจัดตั้งสาขาพรรค และข้อที่ 4 ประกาศว่าด้วยจำนวน ส.ส.พึงมีในแต่ละจังหวัดและในสัปดาห์หน้าจะส่งฉบับใหญ่มาอีก 1 ฉบับ โดยตนได้ขอร้องไปยัง กกต.ว่า ที่ผ่านมา กกต.ได้ออกประกาศระเบียบทยอยออกประกาศทีละฉบับ อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายไปหมด จึงขอให้ช่วยยุบรวมมาหมวดๆ ซึ่ง กกต.ยอมรับว่า ที่ได้ทยอยออกมานั้น เพราะเป็นกฎหมายคนละมาตรา และยังอิงกฎหมายเก่า ขณะนี้ใช้กฎหมายใหม่แล้ว จะประมวลมาเป็นฉบับเดียว เช่น วิธีหาเสียงทำอะไรได้ทำอะไรไม่ได้ ไปงานแต่งได้หรือไม่ แจกพวงหรีดได้หรือไม่ ซึ่ง กกต.ก็รับปากไว้ว่าจะรวบรวมมาเป็นฉบับเดียว

ผู้สื่อข่าวถามนายแสวงถึงกรณีที่มีบางพรรคการเมืองยังวางตัวผู้แทนประจำเขตยังไม่ครบตามกฎหมายกำหนด จะส่งผลต่อการวางแผนโดยรวมของ กกต.หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ตนเชื่อว่าทุกพรรคกำลังเร่งแต่งตั้งผู้แทนประจำเขต หรือสาขาพรรคเพื่อทำไพรมารี่ ซึ่งการทำไพรมารีครั้งนี้เบากว่ากฎหมายเดิม คือไม่ต้องมีตัวแทนทุกเขตเลือกตั้ง และความเห็นที่สาขาหรือตัวแทนประจำเขตส่งมาที่พรรคก็ไม่ผูกพันเหมือนกฎหมายเก่า แต่ขั้นตอนอื่นๆ เหมือนกันทุกอย่าง

ต่อข้อถามว่ากรณีรัฐบาลได้ประกาศวันหยุดยาวไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีการระบุว่าได้หารือกับ กกต.แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดการเลือกตั้ง นายแสวง กล่าวว่า ไม่ได้มีการมาหารือกับกกต. ส่วนการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในช่วงใดนั้นเป็นเรื่องของคนทุกคนในชาติ ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวันหยุดกี่วัน หากทุกคนได้รู้และเตรียมตัวว่าจะมีการเลือกตั้งในวันไหนก็ขอให้มาใช้สิทธิกันให้มากๆ และไม่ว่าจะหยุดกี่วันกกต. ก็ต้องทำงานเหมือนเดิมตามที่มีปฏิทินงานที่วางไว้อยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กกต.มีข้อห่วงใยสิ่งใดที่อยากเตือนพรรคการเมืองในช่วงเวลานี้หรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า ทุกอย่างในตอนนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกคนคงเข้าใจกฎหมาย แต่ในช่วงแรกๆที่หลายคนอาจยังไม่ชินเรื่องกฎ 180 วัน

“กกต. มีแผนการทำงานอยู่แล้วไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนจะเลือกตั้งวันไหนก็ต้องรอนายกฯ ตอนนี้ครบวาระหรือไม่ ก็ยัง และแนวโน้มจะเป็นอย่างไรก็คงไม่มีแนวโน้ม กกต. ยังไม่มีไทม์ไลน์ ตอนนี้ยังไม่มีการเลือกตั้ง”

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีเสียงวิจารณ์ว่าการที่ กกต.ขอเวลา 45 วัน เป็นการช่วยยื้อให้กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายแสวง กล่าวว่า คนก็คิดไปได้ทั้งนั้น กกต.ทำงานเพื่อประเทศไทย เคยเห็นหรือไม่ว่าคนที่ยืนอยู่จุดไหนก็จะพูดในสิ่งที่ตัวเองคิด แต่เราฟังทุกอย่างและมีเหตุผลว่ามันจะต้องเป็นอย่างนี้ หากไม่มีการแบ่งเขตแล้วเราจะเลือกตั้งกันอย่างไร ทุกอย่างมีคำอธิบาย แต่คนจะคิดกันก็คิดได้.