เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 28 ม.ค. 66 ร.ต.อ.สุวิทย์ ภูดอนนาง รอง สว.(สอบสวน) สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตเหล็กหล่อแบบคอนกรีต ภายในซอยสุขสวัสดิ์ 84 (ซอยวัดคู่สร้าง) ด้านหลังตลาดใหม่คู่สร้าง หมู่ 1 ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ มีผู้ติดอยู่ภายใน จึงรีบประสานรถดับเพลิง ไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ แพทย์เวรโรงพยาบาลพระสมุทรเจดีย์สวาทยานนท์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู รถน้ำดับเพลิงจากเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ เทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า และอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยกรุงเทพมหานคร รวม 10 คัน
ที่เกิดเหตุแยกจากถนนสุขสวัสดิ์เข้าไปในซอยสุขสวัสดิ์ 84 (ซอยวัดคู่สร้าง) ประมาณ 500 เมตร บริเวณโค้งโรงเรียนคลองนาเกลือน้อย ด้านหลังตลาดใหม่คู่สร้าง พบแสงเพลิงกำลังโหมลุกไหม้โกดังขนาดใหญ่ กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต่างเร่งฉีดดับเพลิงและสกัดไม่ให้ลุกลามไปทั่วโกดัง ใช้เวลากว่า 40 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ ตรวจสอบบริเวณด้านซ้ายของโกดัง ซึ่งดัดแปลงเป็นบ้านพักแบบ 2 ชั้น พบเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด
และยังพบผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อต่อมา นางเกตุสิริ ศิริพงษ์หิรัญ อายุ 58 ปี ภรรยาเจ้าของโรงงาน สภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ในห้องโถงใหญ่ ถูกไฟคลอกดำเป็นตอตะโก ใกล้กันยังพบซากสุนัขพันธุ์แจ็ครัสเซลล์ เทอร์เรีย และพันธุ์บางแก้ว อายุประมาณ 3 ปี ถูกไฟคลอกตายอีก 2 ตัว และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย คือนายสิริพงษ์ ศิริพงษ์หิรัญ อายุ 55 ปี เจ้าของโรงงาน ถูกไฟลวกมือและแขนทั้ง 2 ข้าง และนายพงษ์เทพ แก้วแสงเอก อายุ 39 ปี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลตำบลพระสมุทรเจดีย์ ถูกไม้หล่นใส่หน้าผากแตกเป็นแผลยาวประมาณ 3 ซม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฐมพยาบาลก่อนนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง ก่อนปิดกั้นพื้นที่ป้องกันอันตราย
สอบถาม นางมณี อิมสืบสาย อายุ 70 ปี มารดาผู้ตาย เบื้องต้นทราบว่า โรงงานดังกล่าวตั้งอยู่เลขที่ 295 มีนายสิริพงษ์ ลูกเขยเป็น เจ้าของโรงงาน ซึ่งผลิตเหล็กแบบหล่อคอนกรีตประเภทต่างๆ ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมลูกเขยและลูกสาวรวม 3 คน พักผ่อนกันอยู่ในบ้านภายในโกดัง ขณะที่นอนอยู่ชั้นล่างได้ตื่นเดินออกมาจากห้องนอนเพื่อเข้าห้องน้ำ เมื่อเสร็จธุระจึงเดินกลับเข้าไปในห้อง ในระหว่างที่กำลังจะเปิดมุ้งเข้าไปนอน ได้ยินเสียระเบิดดังขึ้นมา 2-3 ครั้ง บริเวณหน้าประตูห้อง ก่อนที่จะได้ยินเสียงลูกชายตะโกนเรียกให้หนีออกมาว่า บ้านกำลังถูกไฟไหม้ จากนั้นลูกชายได้พังประตูห้องเข้าอุ้มตนออกมาด้านนอกรอดตายอย่างหวุดหวิด ก่อนที่วิ่งกลับเข้าไปในบ้านอีกครั้งเพื่อจะช่วยภรรยาและสุนัขอีก 2 ตัว แต่ไม่ทัน เนื่องจากไฟลุกลามอย่างรวดเร็ว เพราะบ้านพักต่อเติมด้วยไม้ทั้งหมด เลยเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
เบื้องต้นสันนิษฐานสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 3 ล้านบาท จึงบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันไว้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ นำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
