เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ได้ลงนามในคำสั่งลงวันที่ 18 ม.ค. 2566 เรื่อง มอบหมายให้ข้าราชการปฏิบัติหน้าที่ราชการและรักษาราชการแทน โดยให้ นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และให้ พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และให้รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อให้การบริหารงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษและสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ โดยมีผู้รับผิดชอบการปฏิบัติหน้าที่ราชการที่เหมาะสมกับภารกิจในความรับผิดชอบของส่วนราชการ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ของทางราชการโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 20 และมาตรา 46 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

‘ชูวิทย์’ เผยเอกสารต้นเหตุ DSI ตบทรัพย์ เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจีนเทาปลอมได้ทุกอย่าง

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คาดว่าการลงนามคำสั่งย้ายอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษในครั้งนี้ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นผลมาจากข้อครหาที่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งมีรายงานว่าบุคคลซึ่งเป็น ผอ.กองคดีฯ และเป็นหน้าห้อง-มือขวาของอธิบดีดีเอสไอ ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังรองผู้การ 191 เพื่อประสานต่อไปยัง รอง ผบช.น. ขอศาลอนุมัติหมายค้นบ้านพักกงสุลใหญ่นาอูรู จากนั้นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ รวม 5 คน นำโดย นายตฤณ พิชิตกุญชร ผอ.ส่วนกลั่นกรองและการข่าวคดีพิเศษภาคและเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ร่วมกันเข้าตรวจค้นบ้านพักอดีตกงสุลใหญ่นาอูรู ก่อนปรากฏข่าวเรียกรับผลประโยชน์จีนเทารวมเกือบ 10 ล้านบาท พร้อมปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งหมดจนหลบหนีออกนอกประเทศไปได้ ทำให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้มีการเรียกบุคคลซึ่งเป็น ผอ.กองคดีฯ และเป็นหน้าห้อง-มือขวาของอธิบดีดีเอสไอสอบปากคำ แต่เบื้องต้นยังคงไม่ให้การใดๆ.

อธิบดี DSI ตั้ง กก.สืบข้อเท็จจริง ปม ‘อัจฉริยะ’ แฉส่งของกลางไม่ครบ

พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ