เมื่อวันที่ 16 ม.ค. พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล ผบก.สปพ. กล่าวว่า ภายหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดเข้าไปเกี่ยวข้องได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงตั้งแต่เริ่มต้นประกอบกับทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาสอบสวนเรื่องนี้เช่นกัน กระทั่งศาลได้ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอและตำรวจ 191 เป็นที่เรียบร้อย โดยในส่วนของตำรวจ 191 มี 9 นาย ที่ถูกออกหมายจับ และได้รับทราบข้อกล่าวหาเป็นที่เรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นทางกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้มีคําสั่ง บก.สปพ.ที่ 13/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค. แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง ข้าราชการตํารวจ จํานวน 9 นาย โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ รอง ผบก.สปพ. เป็นประธานกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรง
หมายจับ ‘ตร.-ดีเอสไอ’ 16 นาย เอี่ยวรับผลประโยชน์ค้นสถานรับรองสถานกงสุล ‘นาอูรู’
นอกจากนี้ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ได้มีคําสั่ง บก.สปพ.ที่ 14/2566 ลงวันที่ 16 ม.ค. เรื่อง คําสั่งให้ข้าราชการตํารวจปฏิบัติราชการศูนย์ปฏิบัติการกองบังคับการสายตรวจและ ปฏิบัติการพิเศษ จํานวน 9 นาย โดยให้ขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตําแหน่งเดิม
ผบก.สปพ. กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ได้ประชุมและกำชับแนวทางปฏิบัติให้ข้าราชการตำรวจในสังกัด ให้ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ด้วยความสุจริตเพื่อประชาชน หากใครเดินออกนอกกรอบไม่ถูกต้อง ปรากฏข้อเท็จจริงก็จะต้องดำเนินการทางวินัยและอาญา โดยไม่มีข้อยกเว้น
สำหรับตำรวจทั้ง 9 นาย ที่ถูกตั้งกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงตามคำสั่งมีดังต่อไปนี้
- ร.ต.อ.ณรงค์เดช พิทักษ์ประชาชน
- ร.ต.ท.สุรินทร์ เอียดแก้ว
- จ.ส.ต.ธรรมนูญ จันทร์นวล
- จ.ส.ต.อรรถรินทร์ วิริยะพันธ์
- ด.ต.สุภชัย สุริยัพ
- ด.ต.ดร.ปกิต มูลเพ็ญ
- จ.ส.ต.จีระ เลขะสันต์
- จ.ส.ต.ธวัชชัย สายพันธุ์
- จ.ส.ต.สิทธิพงศ์ ทวีสิน