จากกรณี นายสุทัศน์ สิวาภิรมย์รัตน์ หรือ “เสี่ยจั๊บ” ขับรถยนต์หรู “เบนท์ลีย์” พุ่งชนรถคู่กรณีบนทางด่วนเมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย โดยเจ้าตัวปฏิเสธการเป่าตรวจวัดแอลกอฮอล์ ภายหลังมีการตรวจเลือดที่ รพ.ตำรวจ กระทั่งผลเลือดออกมาพบว่ามีสารเสพติด
เกี่ยวกับเรื่องนี่้ เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. แถลงความคืบหน้าในการดำเนินคดี นายสุทัศน์ ว่าจากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผลการตรวจเลือดของผู้ต้องหา มีสารเสพติด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำแพทย์ผู้ตรวจประกอบไว้เรียบร้อยแล้ว และในขณะนี้ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเรียกตัวผู้ต้องหามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 3 ข้อหา ได้แก่ 1. เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน) โดยผิดกฎหมาย 2. เป็นผู้ขับขี่รถยนต์ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ และเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส 3. ขับรถโดยประมาท หรือน่าหวาดเสียว อันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคล หรือทรัพย์สิน
กรณีข้อหา “เสพวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 (คีตามีน โดยผิดกฎหมาย ซึ่งอยู่นอกอำนาจการสอบสวน ของงานควบคุมจราจรทางด่วน 1 นั้น พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พ.ต.อ.สุกิจ อรุณฤกษ์ถวิล รอง ผบก.จร. เป็นหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวนของ สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย
สำหรับในเรื่องของความเร็วนั้น อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ของกองพิสูจน์หลักฐาน หากพบว่าเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ส่วนกรณีการตรวจสอบรถยนต์เบื้องต้น พบว่ามีการจดทะเบียนถูกต้อง ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานเช่นเดียวกันว่ามีการปลอมแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งหรือไม่.