สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ว่า นายกรัฐมนตรี อิสมาอิล ซาบรี ยาค็อบ ผู้นำมาเลเซีย แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อวันอาทิตย์ มีเนื้อหาตอนหนึ่ง ว่าวิกฤติการเมืองที่เกิดขึ้นได้สร้างความไม่พอใจและความทุกข์ใจอย่างหนักให้แก่ประชาชน ด้วยเหตุนี้ การฟื้นฟูเสถียรภาพและความเชื่อมั่นทางการเมืองจึงเป็นเรื่องสำคัญ และต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว ซึ่งหนึ่งในวิธีการมีประสิทธิภาพ คือการทำงานร่วมกันระหว่างพรรคการเมือง รวมถึงระหว่างพรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ อิสมาอิล ซาบรี กล่าวว่า เขาจะสานต่อนโยบายด้านการบริหารจัดการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งตอนนั้นเขาอยู่ในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ที่รวมถึงการเชิญแกนนำพรรคฝ่ายค้านร่วมคณะทำงาน และการติดต่อความคืบหน้าของการซื้อวัคซีนเพิ่มเติมอีก 6 ล้านโด๊ส ซึ่งควรทยอยมาถึงภายในต้นเดือน ก.ย.นี้  
อนึ่ง อิสมาอิล ซาบรี วัย 61 ปี เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านา เพื่อกราบบังคมทูลถวายคำสัตย์ปฏิญาณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 9 อย่างเป็นทางการ นับเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 3 ของมาเลเซีย ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี ต่อจาก ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด และนายมูห์ยิดดิน ยาสซิน
อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ที่มีพรรคมลายูสามัคคีแห่งชาติ ( อัมโน ) พรรคการเมืองขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุด "เป็นตัวแปรสำคัญ" ส่งผลอย่างหนักต่อการบริหารท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 และทำให้มูห์ยิดดินตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ก่อนถึงกำหนดการอภิปรายและลงมติไม่ไว้วางใจในเดือนหน้า และการเลือกตั้งทั่วไปภายในเดือน ก.ค. 2566
ขณะที่การรับตำแหน่งของอิสมาอิล ซาบรี ซึ่งดำรงตำแหน่งรองประธานพรรคอัมโน และเท่ากับเป็นการหวนคืนสู่อำนาจสูงสุดทางการเมืองของพรรคเก่าแก่แห่งนี้ หลัง "พ่ายแพ้ครั้งประวัติศาสตร์" ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2561 และต้องพ้นจากการผูกขาดการเป็นรัฐบาลเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่มาเลเซียเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2500 แต่เป็นความเคลื่อนไหวที่ยังต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะสมาชิกระดับสูงหลายคนของพรรคอัมโนยังมี "ชนักติดหลัง" เรื่องการทุจริตในกองทุนพัฒนาแห่งชาติ "วันเอ็มดีบี".

เครดิตภาพ : AP