เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านโปร่งศรีษะเกษ หมู่ที่ 9 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีช้างป่าอ่างฤาไนยกฝูงมากัดกินมะละกอ อ้อย และกล้วยของเกษตรกรเสียหายครึ่งสวน จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบป่ามะละกอและป่าอ้อยของนายช่อศักดิ์ ศรีจันทร์ ชาวบ้านหมู่ที่ 9 เสียหายเป็นบริเวณกว้าง 


นายช่อศักดิ์ กล่าวว่า ได้รับผลกระทบจากฝูงช้างป่าอ่างฤาไนยกฝูงมาหากินในนาข้าวเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ปีนี้โขลงช้างป่ามากกว่า 10 ตัว พากันเข้ามากัดกินมะละกอพันธุ์แขกดำที่ปลูกไว้ข้างบ้าน 3 ไร่ ช้างกัดกินและเหยียบย่ำมะละกอเสียหาย 600 กก. เก็บมะละกอไปขายได้กิโลกรัมละ 3 บาท ได้ 1,600 บาท ซึ่งหากมะละกอจำนวนดังกล่าวแก่จัด จะขายได้ประมาณ 8,000 บาท ไม่รู้ว่าที่เหลือช้างป่าจะเข้ามากัดกินอีกเมื่อไหร่ไม่รู้ ฝากถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยลงมาแก้ไขปัญหาช้างป่าอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่มาผลักดันช้างป่าให้พ้นออกจากหมู่บ้านนี้แล้วปล่อยให้ช้างป่าเข้าไปหากินหมู่บ้านข้างเคียง หมู่บ้านนี้ไล่มาหมู่บ้านนี้ไล่ไป ช้างก็วนเวียนหากินอยู่แบบนี้ ขณะนี้ชาวบ้านแต่ละหมู่ที่ได้รับผลกระทบเริ่มขัดใจกันเองแล้ว เพราะไล่ช้างจากหมู่บ้านนี้ไปหมู่บ้านนั้น


ด้านนายประนอม ด้วงเมฆ เจ้าของสวนกล้วย กล่าวว่า ปลูกกล้วย 10 ไร่ ช้างป่าไม่ทราบจำนวนเข้ามากินกล้วยที่กำลังจะแก่ รอตัดขายช่วงเทศกาลตรุษจีน เสียหายประมาณ 2 ตัน กล้วยที่เสียหายไป จะขายได้ตันละ 15,000 บาท ช้างป่าเข้ามากัดกินเสียหายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ขณะเดียวกันนายณัฐพงษ์ ปรีชากูล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 นายชัช วงษ์ศรี ส.อบต. เข้ามาให้คำแนะนำไปติดต่อเกษตรอำเภอ เพื่อลงทะเบียนเกษตร หากเกษตรกรทะเบียนเกษตร จะได้รับการช่วยเหลือเท่าจำนวนค่าเสียหายที่เกิดขึ้น.