เมื่อวันที่ 4 ม.ค. นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ “เดลินิวส์” ถึงกรณี รฟท.จ้างเอกชนเปลี่ยนป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อเป็นสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์วงเงิน 33 ล้านบาท ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เข้าข่ายความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยใช้วิธีการว่าจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงเนื่องจาก ร.ฟ.ท.รับพระราชทานชื่อสถานีกรุงเทพอภิวัฒน์มาตั้งแต่เดือน ก.ย. 2565 แต่ลงนามสัญญาจ้างเอกชนด้วยวิธีเฉพาะเจาะจงช่วง เดือน ธ.ค. 2565 ทั้งที่ ต.ค.-พ.ย. มีเวลาประกาศเชิญชวน เอกชน เพื่อให้เกิดการแข่งขันราคา ทำให้การใช้งบประมาณของ รฟท.เป็นไปอย่างเหมาะสม

ส่วนประเด็น รฟท.เลือกใช้ตัวอักษรทำด้วย วัสดุอะคริลิก นายประภัสร์ กล่าวว่า ข้อดีวัสดุอะคริลิกคือสวย แต่ข้อด้อย คือไม่ทนหากเจอความร้อนจะแตกลายงา มีอายุงานจำกัดทำให้ต้องซ่อมบ่อยพร้อมตั้งข้อสังเกต กรณีเซ็นสัญญาจ้างบริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ เนื่องจากเป็นผู้รับเหมาที่ดำเนินการก่อสร้างสถานี กลางบางซื่อ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินการมากกว่ารายอื่นนั้นหากมองในมุมกลับบริษัทดังกล่าวคุ้นเคยกับงาน และคุ้นเคยกับระบบสถานที่บางซื่อ น่าจะทำให้ราคาเปลี่ยนป้ายชื่อถูกลง กว่า 33 ล้านบาท และขอเรียกร้องผู้บริหาร รฟท. ออกมาชี้แจงข้อสงสัยต่อสาธารณชน อย่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์.

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก “ประภัสร์ จงสงวน”