จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนใช้ปืนยิงกระสุนยาง ยิงใส่ประชาชนที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณแยกดินแดง เมื่อวันที่ 20 ส.ค.ที่ผ่านมา จำนวน 3 นัด ซึ่งอยู่ในระยะประชิดซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อผู้ถูกยิง อีกทั้งก่อนหน้านี้ทาง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้ออกมาสาธิตวิธีการยิงแก๊สน้ำตาและยังระบุว่า “กระสุนยาง” ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนใช้นั้นจะต้องยิงในระยะปกติคือ 15 เมตร เพื่อไม่ให้เกิดอันตราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
‘จอห์น วิญญู’โพสต์คลิปแฉตำรวจยิงปืนใส่วัยรุ่น ระบุ ‘This is Thailand’
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 21 ส.ค. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าเหตุการณ์ก่อนหน้าและหลังเกิดเหตุเป็นอย่างไร แต่ตามหลักการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชน จะใช้ก็ต่อเมื่อยับยั้ง ห้ามปราม ระงับเหตุ ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล
ส่วนการยิงระยะประชิดและช่วงตัวท่อนบนนั้น ต้องดูเจตนาของเจ้าหน้าที่ ว่าเป็นการระงับเหตุวุ่นวาย หรือเป็นการป้องกันตัวเองหรือไม่อย่างไร เช่น คนขี่รถจักรยานยนต์อาจขับพุ่งชนเจ้าหน้าที่ ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปโดยสมเหตุสมผล ก็ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งเบื้องต้นชายคนดังกล่าวที่ปรากฏตามคลิปแต่งกายคล้ายตำรวจ อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใด และจะเรียกมาสอบสวนว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไร ทั้งนี้ขอประชาชนอย่าเพิ่งตัดสินใจจากคลิปเพียง 3.78 วินาที ขอให้ดูคลิปเหตุการณ์ยาวทั้งหมดก่อน
พล.ต.ต.ปิยะ เผยอีกว่า เช่นเดียวกับที่มีคลิปตำรวจควบคุมฝูงชนยืนอยู่บนสะพานลอยหน้าแฟลตดินแดง และยิงกระสุนยางใส่ประชาชนบริเวณใต้แฟลตดินแดงนั้น กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังไม่ได้รับรายงานคลิปดังกล่าว และจะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่ยืนยันว่าหากตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่บกพร่องหรือมีความผิด ทาง บช.น. ก็มีมาตรการดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาอยู่แล้ว เหมือนที่เคยดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเหตุสลายการชุมนุมที่สะพานวันชาติเมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่าตำรวจมีพฤติกรรมอาจจะเข้าข่ายสุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามหลักสากล โดยมีการใช้กำลังเข้าไปสลายการชุมนุม ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด
“ทั้งนี้ขอย้ำกับประชาชนว่า ตำรวจได้ตรวจสอบคลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน จำนวน 18 คลิป ต้องขอใช้เวลาในการตรวจสอบว่าคลิปใดเป็นคลิปปลอม คลิปใดเป็นคลิปจริง หรือคลิปจริงที่ตัดทอนมาบางส่วน และขอให้ประชาชนใช้วิจารณญาณ” พล.ต.ต.ปิยะกล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า ส่วน การดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม บริเวณแยกดินแดงเมื่อวันที่ 20 ส.ค. พบพฤติการณ์พยายามฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ และรื้อตู้คอนเทเนอร์ โดยผู้ชุมนุมมีการขว้างปา ลูกแก้ว ลูกหิน พลุ เพลิง ระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ ใส่เจ้าหน้าที่ ที่พยายามรักษาพื้นที่ ซึ่งตำรวจได้จับกุมผู้ชุมนุม 26 คน พร้อมตรวจยึดของกลางระเบิดปิงปอง ไปป์บอมบ์ และระเบิดแสวงเครื่องได้ 200 ลูก นำตัวส่งดำเนินคดีแล้ว สรุปการดำเนินคดีในห้วงเดือน ก.ค.ถึงเดือน ส.ค. เป็นเวลา 2 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น 807 คดี มีผู้ต้องหาที่ต้องถูกดำเนินคดี 468 คน จับกุมแล้ว 211 คน
ส่วนการชุมนุมในวันนี้มี 2 จุด คือบริเวณสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ถนนราชดำเนิน และแยกดินแดงในช่วงเย็น ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบตั้งแต่ช่วงบ่ายเป็นต้นไป และยืนยันว่าการชุมนุมในขณะนี้เป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ รวมถึงกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง.