เชื่อว่าเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ผมทึกทักเอาเองว่าแฟนบอลชาวไทยค่อนประเทศ น่าจะเทใจเชียร์ทีมเพื่อนร่วมทวีปอย่าง ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ 

แม้จะไม่ได้เป็นแฟนพันธุ์แท้ของทั้ง 2 ทีม แต่ต้องยอมรับว่าทั้งคู่เล่นน่าเชียร์จริง ๆ ในรอบแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่พวกเขาช็อกโลก ทั้ง ญี่ปุ่น ที่ชนะ เยอรมนี และ สเปน รวมถึงเกมที่ เกาหลีใต้ เฉือน โปรตุเกส ผมอยู่ในสนามทั้งหมด มันทำให้ผมเกิดอารมณ์ร่วมและอยากตามต่อว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหน 

2 เกมเมื่อวันจันทร์นั้น เป็นวันที่ผมตัดสินใจได้ยากมาก ๆ ว่าจะขอตั๋วไปดูคู่ไหน แต่สุดท้ายด้วยดีกรีแชมป์โลก 5 สมัยและการคัมแบ๊กของ เนย์มาร์ ทำให้ผมเลือกคู่ บราซิล กับ เกาหลีใต้ แล้วผมก็ได้ยลลีลาสไตล์แซมบ้าของแท้แบบเต็มๆ เพราะพวกพี่เขาเร่งเครื่องม้วนเดียวจบ นำ 4-0 ตั้งแต่ครั้งแรก ทำให้เกมขาดลอยเท้งเต้งอย่างรวดเร็ว

ถือเป็นความโชคร้ายสำหรับทัพนักเตะจากแดนโสม ปกติก็สู้ยากอยู่แล้ว เกมนี้ยังเจอ บราซิล ที่ลงล็อกไปเสียทุกอย่างบวกกับการเลือกเปิดหน้าสู้เลยเละตั้งแต่ครั้งแรก

อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในแง่ผลงานโดยรวมแล้ว เกาหลีใต้ มีฟุตบอลโลกที่ไม่ขี้เหร่เลย..

แต่สำหรับญี่ปุ่นนั้น แม้ผลงานจะไม่ถึงรอบ 8 ทีมเหมือนที่ตั้งเป้าไว้ แต่สำหรับผม นี่คือทัวร์นาเมนต์ที่พวกเขาประสบความสำเร็จอย่างงดงามแล้ว การเป็นแชมป์กลุ่มในกรุ๊ป ออฟ เดธ​ ด้วยการชนะทั้ง เยอรมนี และ สเปน ไม่ใช่ใครจะทำได้ง่าย ๆ และสุดท้ายพวกเขาแพ้รองแชมป์เก่าแบบหวุดหวิดจากการดวลจุดโทษ ซึ่งมันเป็นอะไรที่ 50/50 อยู่แล้ว 

อย่างไรก็ตาม ทัวร์นาเมนต์นี้ พวกเขาชนะใจแฟนบอล รวมถึงสื่อส่วนใหญ่ได้อย่างงดงาม ดูได้จากตอนดวลจุดโทษนั้น สื่อที่อยู่กันแน่นมีเดีย เซ็นเตอร์ ของสนามคู่ บราซิล-เกาหลีใต้ ต่างลุ้นเอาใจช่วย ญี่ปุ่นกันแทบทั้งนั้น (ยกเว้นนักข่าวยุโรปและเกาหลีใต้บางคน 555) 

แม้จะแพ้ แต่นี่เป็นสัญญาณว่า ญี่ปุ่น ยกระดับเข้าไปใกล้พวกยุโรปอีกก้าว และตอนนี้พวกเขาสู้ได้ทุกทีมในโลกแล้ว 

ภาพที่ ฮาจิเมะ โมริยาสึ กุนซือ “ซามูไร บลู” โค้งให้แฟนบอลบนอัฒจันทร์หลังแพ้ โครเอเชีย นั้น เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่ปนเป ทั้งขอบคุณและขอโทษ 

แต่ด้วยความเป็น ญี่ปุ่น และจากผลงานและศักยภาพที่พวกเขาแสดงให้เห็นในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ผมเชื่อว่าพวกเขาสามารถฝันถึงเป้าหมายที่ไกลกว่าเดิมได้ และจะพาทีมไปถึงเป้าหมายนั้นให้ได้ในอนาคต

บางทีเป้าหมายคว้าแชมป์โลกในปี 2050 ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น อาจไม่ใช่เรื่องชวนขำอีกต่อไปแล้ว…

ผยองเดช