“ลุงตู่” ดัน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน” สู่ระดับท็อปโลก

เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมสัมมนากรีฑาโลก ประจำปี 2565 หรือ WORLD ATHLETICS GLOBAL RUNNING CONFERENCE 2022 และพิธีแถลงความพร้อมการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก 2022” ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน

โดยมี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี, นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี, นายเขมพล อุ้ยตยะกุล เลขานุการรัฐมนตรี, นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, นายชนาสิน สิมะดำรงค์ รองผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, นายกอบเกียรติ แสงวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยแลนด์ไตรลีก, Mrs.Dawna Stone ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร World Marathon Majors และ Mr.Jakob Larsen ผู้อำนวยการอาวุโส สมาคมกรีฑาโลก และคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฯ ให้การต้อนรับอย่างพร้อมเพรียง

โดยการประชุมสัมมนากรีฑาโลก WORLD ATHLETICS GLOBAL RUNNING CONFERENCE 2022 ครั้งนี้ จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1-3 ธ.ค. นี้ ที่รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน โดยมีผู้จัดงานวิ่งมาราธอนชั้นนำจากทั่วโลก เดินทางมาร่วมประชุมอย่างคับคั่ง

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวว่า ตนเองรู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมสัมมนาของวงการกรีฑาโลกและการจัดการแข่งขันมาราธอนระดับโลกที่รัฐบาลไทยร่วมเป็นเจ้าภาพ รายการ Amazing Thailand Marathon Bangkok 2022 ที่ผ่านมา รัฐบาลได้มีการหารือกับภาคธุรกิจกลุ่มต่างๆ เพื่อที่จะร่วมกันหาวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ให้กลับมาเข้มแข็งอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวของประเทศ ให้กลับมาแข็งแกร่งและขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จึงถือเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลพยายามสนับสนุนให้เกิดเป็นรูปธรรมมากที่สุด การส่งเสริมกิจกรรมทางการท่องเที่ยวเชิงกีฬา ก็เป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นผู้ดำเนินการ

“ในนามของรัฐบาล ต้องขอขอบคุณสมาคมกรีฑาโลก ที่เชื่อมั่นและให้ความไว้วางใจให้ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพการจัดงานกรีฑาระดับโลก จำนวน 3 งาน ในปีนี้ ได้แก่ การแข่งขันกีฬาวิ่ง เทรลภูเขาชิงแชมป์โลก ครั้งที่ 1 ที่ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ที่ได้จัดไปแล้วเมื่อวันที่ 3-6 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งผมได้รับรายงานจากหลายภาคส่วน กล่าวชื่นชมถึงความสำเร็จในการจัดงานรายการนี้ โดยสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 450 ล้านบาท, การประชุมสัมมนากรีฑาโลก ประจำปี 2565 และการแข่งขันวิ่งมาราธอนส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก รายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสมาคมกรีฑาโลก ด้วยดีมาโดยตลอด จนปัจจุบัน ถือว่าเป็น 1 ใน 5 ของมาราธอนในเมืองหลวง ที่จัดได้ดีที่สุดในทวีปเอเชีย มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมมากกว่า 25,000 คน”

“ด้วยศักยภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลก ที่ได้มาตรฐานสากลของคณะผู้จัดงาน ประกอบกับความพร้อมทางด้านสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่สวยงามของประเทศไทย ผมหวังว่าการจัดการกิจกรรมต่างๆ ที่รัฐบาลไทยร่วมเป็นเจ้าภาพ จะสร้างความสุขและความประทับใจให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน อีกทั้งจะสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจของประเทศ ได้เป็นจำนวนมาก ผมขอขอบคุณผู้มีส่วนร่วมทุกท่านที่ช่วยกันผลักดันให้เกิดกิจกรรมดีๆ เหล่านี้ขึ้น และขอให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสนับสนุนให้รายการนี้ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน จะเป็นมาราธอนหลัก 1 ใน 5 ของทวีปเอเชียได้ ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและจะผลักดันอย่างเต็มที่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวทิ้งท้าย

ทางด้าน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ กล่าวรายงานถึงความสำเร็จในการจัดการประชุมสัมมนากรีฑาโลก และความพร้อมของการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนฯ ต่อนายกรัฐมนตรี ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นเจ้าภาพกับสมาคมกรีฑาโลก หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ดำเนินการจัดการจัดงานกรีฑาระดับโลกในปี 2565 ทั้งสิ้น จำนวน 3 รายการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล ในยุทธศาสตร์ของการใช้กีฬานำการท่องเที่ยว เพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น และกระตุ้นภาคของการท่องเที่ยวให้ขยายตัวเพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ ก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพด้านการจัดงานระดับโลก อันจะนำมาซึ่งประโยชน์ของประเทศที่ยั่งยืน

“ภาพรวมของการจัดงานใหญ่ทั้ง 3 รายการ มีผู้เข้าร่วมงาน เป็นนักกีฬาตัวแทนทีมชาติจากทั่วโลก คณะผู้ติดตาม เจ้าหน้าที่ประจำทีม ครอบครัว และนักกีฬาทั่วไป ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางมาร่วมงาน ในช่วงเดือน พ.ย. ถึงต้นเดือน ธ.ค. 65 มีจำนวนมากถึง 35,000 คน ซึ่งจากการคำนวณของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คาดว่าก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียน เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่น้อยกว่า 950 ล้านบาท นอกจากนี้ประเทศไทย ยังได้รับการยอมรับถึงความพร้อมและศักยภาพของการจัดงานที่ได้มาตรฐานในระดับ World Event อีกด้วย” นายพิพัฒน์ กล่าว

“จากความสำเร็จของการจัดงาน กระทรวงฯ เตรียมหารือกับสมาคมกรีฑาโลก ถึงความร่วมมือในการผลักดันให้งาน “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” เป็นการแข่งขันวิ่งมาราธอนที่ได้มาตรฐานโลก และติดอันดับมาราธอนในเมืองหลวงที่มีคนอยากมาร่วมงานมากที่สุด 1 ใน 5 ของทวีปเอเชีย โดยจะมอบให้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และผู้จัดงานไทยแลนด์ไตรลีก ร่วมกันเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดมาราธอนชิงแชมป์โลก ในปี 2567-2568 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเท่าที่ได้พูดคุยกับทางสมาคมกรีฑาโลก เห็นว่า ประเทศไทย มีโอกาสสูงที่จะได้รับการพิจารณาให้เป็นเจ้าภาพจัดมาราธอนชิงแชมป์โลกได้ ผมคาดว่าหากเราทำได้สำเร็จ จะเป็นประโยชน์มหาศาลต่อวงการกีฬากรีฑาของประเทศ ทั้งทางด้านชื่อเสียงและการสร้างรายได้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน” นายพิพัฒน์ กล่าว

อนึ่ง สำหรับการแข่งขันวิ่งมาราธอนระดับโลก รายการ “อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน แบงค็อก” ชิงถ้วยรางวัลพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ จำนวน 8 รางวัล กำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 4 ธ.ค. นี้ เวลา 02.00-09.30 น. จุดปล่อยตัว ณ ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก และจุดเส้นชัย ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ซึ่งนอกจากจะมีนักวิ่งทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้าร่วมงานมากกว่า 25,000 คนแล้ว ยังได้รับเกียรติจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ จะมาร่วมวิ่งในระยะ 21 กม. รวมทั้งยังได้รับเกียรติจากผู้จัดมาราธอนระดับโลก ที่มาร่วมในงานประชุมสัมมนากรีฑาโลก เข้าร่วมทั้งหมดอีกด้วย.