กลายเป็นการหล่นตุ้บลงมาอยู่กับพื้นโลกอย่างรวดเร็วเลยนะครับ สำหรับทีมชาติญี่ปุ่น หลังแพ้ คอสตาริกา ทั้งที่นัดแรกเหมือนลอยอยู่บนสวรรค์ จากการอุตส่าห์ช็อกโลกโค่น “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี มาได้

ลูกทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสึ คุมทุกอย่างเอาไว้ได้ในกำมือแล้วแท้ ๆ โอกาสมีเพียบ แต่ดันโดนทีเด็ดของ คีย์เซอร์ ฟูลเลอร์ ส่องตุงตาข่ายช่วงท้าย ซึ่งเป็นโอกาสยิงตรงกรอบครั้งเดียวตลอดทั้งเกมของ คอสตาริกา

ก่อนเกมนี้ เท่าที่เดินสำรวจบรรยากาศหน้าสนาม พบว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ คือแฟนบอลจากแดนอาทิตย์อุทัย และทั้งหมดมาด้วยความรู้สึกเดียวกัน นั่นคือมั่นใจสุด ๆ ขนาด เยอรมนี ยังปราบมาแล้ว จะกลัวอะไรกับ คอสตาริกา ที่โดน สเปน มา 0-7 ในเกมแรก 

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสีสันบรรยากาศใด ๆ นั้น แฟนบอลทีมชาติญี่ปุ่นกินขาด คอสเพลย์นี่มากันทุกรูปแบบ และที่สำคัญ ถ้าว่ากันด้วยเรื่องสาว ๆ ซึ่งเป็นสิ่งชุ่มชื่นใจของเหยี่ยวข่าวหนุ่ม (ใหญ่) ซึ่งโสดสนิทอย่างผมแล้ว พวกเธอชนะคอสตาริกา ขาดกระจุยไม่เห็นฝุ่น!

และที่สำคัญ เท่าที่ได้คุยกับแฟนบอลญี่ปุ่นหลายคน ร้อยทั้งร้อยมั่นใจสุดขีดว่า 3 คะแนน เป็นของพวกเขาแน่ ๆ  

ด้วยความที่ 3 แต้มในเกมนี้ น่าจะทำให้พวกเขากำตั๋วรอบ 16 ทีมสุดท้ายในมือค่อนข้างแน่ แถมเกมสุดท้ายต้องเจอสเปน ดังนั้นนี่คือเกมที่ ญี่ปุ่น สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องกำชัยให้ได้ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปวัดกับกระดูกขัดมันอย่าง“กระทิงดุ” ในเกมสุดท้าย 

หลายคนจึงเก็งว่า ฮาจิเมะ โมริยาสึ น่าจะเน้นเกมรุกเต็มที่ อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 54 ปี ยังคงยึดแนวทางเดิม ตัวรุกที่แฟน ๆ หวังว่าจะได้เห็นเป็น 11 คนแรกอย่าง ทาคูมะ อาซาโนะ รวมถึง คาโอรุ มิโตมะ จึงยังต้องออกสตาร์ตบนม้านั่งสำรองเหมือนเดิม 

นอกจากนี้ โมริยาสึ ยังคงยึดแนวทางเดิมในเรื่องแทคติก นั่นคือไม่ผลีผลามในครึ่งแรก ก่อนที่จะกดปุ่มสั่งให้ลูกทีมเร่งสปีดเกมเต็มที่ในครึ่งหลัง แต่สุดท้ายเจาะไม่เข้า แถมโชคร้ายที่สุดยังโดนสวนชนิด “โป้งเดียวจอด” 

ทำเอาหลังเกมแฟนบอลญี่ปุ่น เดินออกจากสนามแบบหงอยไปถนัดใจ แทนที่จะลิ่วสบาย ๆ ด้วยการเอาชนะคอสตาริกา ให้สิ้นเรื่องสิ้นราว กลับกลายเป็นต้องไปลุ้นกันตัวโก่งในเกมสุดท้าย

น่าเสียดาย ทำตัวเองแท้ ๆ…

ผยองเดช 

ป.ล. รูปประกอบไม่เกี่ยวกับเนื้อเรื่องแต่อย่างใด 555