เมื่อวันที่ 25 พ.ย. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ครั้งที่ 3/2565 สรุปว่าที่ประชุมพิจารณาข้อเสนอเชิงนโยบายเรื่องขยายเวลาเปิดสถานบริการให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 04.00 น. ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับการ ขยายเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถึง 04.00 น.เพราะจะเพิ่มผลกระทบด้านสุขภาพ ,คนบาดเจ็บจากการดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น โอกาสที่จะมีคนเมาขับทำให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่ม 27% คาดประมาณผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเมาแล้วขับ 10-20 รายต่อวัน แม้จะมีการกวดขัน ตั้งด่านตรวจเข้มตลอดคืนถึงเช้า คาดว่าสกัดคนเมาขับได้เพิ่ม 30-50% ลดผลกระทบได้เพียง 10 รายต่อวันเท่านั้น

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงว่าการพิจารณาวันนี้เป็นเรื่องของการไม่ขยายเวลาในการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ใช่การขยายเวลาเปิดผับบาร์ถึง 04.00 น.เนื่องจาก สธ.ควบคุมการจำหน่ายแอลกอฮอล์ การเปิดผับไม่เกี่ยวกับ สธ.ซึ่งเวลาในการขายไม่ได้เกี่ยวพันแค่การขายในสถานบันเทิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการขายในร้านค้าที่ได้รับอนุญาตให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ดังนั้น มติคือไม่ได้เห็นด้วยกับการขยายเวลาการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จนถึง 04.00 น. โดยปัจจุบันขายได้ 2 ช่วงคือ 11.00-14.00 น. และ 17.00-24.00 น.

ส่วนเรื่องการขยายเปิดสถานบริการผับบาร์ถึง 04.00 น. คณะทำงานวิชาการพิจารณาทุกประเด็นทุกมิติ ทั้งประโยชน์เศรษฐกิจข้อกฎหมายและความปลอดภัย เห็นตรงกันว่า ยังไม่ควรขยายเวลา แต่เป็นความเห็นของคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติในวันที่ 22 ธ.ค.นี้ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เห็นชอบแนวทางการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 หัวข้อ “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” ภายใต้คำขวัญ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” เน้นขับเคลื่อนผ่านผู้นำท้องถิ่น นโยบายมาตรการชุมชน การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เพิ่มมาตรการทดสอบผู้ขับขี่ที่สงสัยว่าจะดื่มที่ด่านชุมชน และใช้แนวทางมาตรการสังคมประเมินอาการมึนเมา ป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงดื่มแล้วขับ มาตรการรณรงค์จะมีทั้งช่วงก่อนเทศกาล ช่วงเทศกาล และหลังเทศกาลปีใหม่ และเห็นชอบการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ระดับชาติ ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2565-2570) ให้คณะกรรมการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จังหวัดจัดส่งแผนปฏิบัติการระดับจังหวัด และติดตามความก้าวหน้าผ่านกระบวนการตรวจราชการ.