สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอังการา ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 23 พ.ย. โดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวภาคในกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด ( วายพีจี ) และกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย ( เอสดีเอฟ ) ว่า กองทัพตุรกีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศตามแนวพรมแดนทางเหนือของซีเรีย โดยใช้น่านฟ้าทั้งที่อยู่ภายในเขตอิทธิพลของรัสเซียและสหรัฐ
ด้านกระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย และสหรัฐ ยังปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ ขณะที่แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของรัฐบาลอังการาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าว โดยยืนยันว่า เครื่องบินเอฟ-16 ของตุรกีปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายจากระยะไกล และเครื่องบินทุกลำยังอยู่ภายในอาณาเขตน่านฟ้าของตุรกี
ขณะที่ พล.อ.ฮูลูซี อการ์ รมว.กลาโหมตุรกี กล่าวว่ากลุ่มนักรบชาวเคิร์ดตามแนวชายแดนระหว่างซีเรียกับตุรกี เป็นเครือข่ายของกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด ( พีเคเค ) ซึ่งรัฐบาลอังการา ถือเป็น “องค์กรก่อการร้าย” ด้วยเหตุนี้ ตุรกีขอเตือนอีกครั้งไปถึงองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) โดยเฉพาะสหรัฐ ที่เป็นสมาชิกหลัก ให้ยุติการมอบความสนับสนุนทุกรูปแบบแก่กลุ่มก่อการร้ายชาวเคิร์ดและเครือข่าย พร้อมทั้งส่งสัญญาณการรุกคืบจากภาคพื้นดินด้วย
ทั้งนี้ ปฏิบัติการทางทหารของกองทัพตุรกีรอบนี้ เกิดขึ้นหลังเหตุระเบิดในเขตใจกลางเมืองอิสตันบูล เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกมากกว่า 80 คน แม้จนถึงตอนนี้ยังไม่มีบุคคลกลุ่มใดออกมารับสมอ้าง แต่รัฐบาลอังการา กล่าวว่า พีเคเค และพันธมิตรทั้งหมดอยู่เบื้องหลัง
อนึ่ง พีเคเค ทำสงครามกองโจรกับรัฐบาลอังการา มาตั้งแต่ปี 2527 เพื่อแบ่งแยกดินแดนบางส่วนทางตอนใต้ของตุรกี ไปรวมเป็นส่วนหนึ่งของการสถาปนารัฐอิสระให้กับชาวเคิร์ด การสู้รบระหว่างทั้งสองฝ่ายตลอดเกือบ 4 ทศวรรษมานี้ คร่าชีวิตทั้งทหารและพลเรือนรวมมากกว่า 40,000 ราย.
เครดิตภาพ : REUTERS