สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองคุนหมิง ประเทศจีนว่า เมื่อ 16 ส.ค. การสวมหน้ากากอนามัย ตรวจวัดอุณหภูมิ และแสดงรหัสคิวอาร์สุขภาพ ได้กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของจางเหม่ยเซี่ยว นักศึกษาสาวชาวไทยที่อาศัยอยู่ในนครคุนหมิง เมืองเอกของมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน แต่ถึงแม้เธอจะเผชิญการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ตั้งแต่ช่วงแรกที่เดินทางมาถึงจีน แต่หญิงสาวรายนี้คิดว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเธอมากนัก และทุกอย่างยังดำเนินไปอย่างราบรื่น
จางเหม่ยเซี่ยว หรือ แพรว เป็นนักศึกษาชาวไทยวัย 26 ปี เธอศึกษาในสาขาการสอนภาษาจีนให้ชาวต่างชาติที่มหาวิทยาลัยครูอวิ๋นหนาน ประจำปีการศึกษา 2021 แพรวเป็นคนเชียงใหม่ เธอตกหลุมรักภาษาจีนตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนปลาย และเลือกเรียนภาษาจีนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 แม้ว่าแพรวจะเรียนเอกภาษาอังกฤษในระดับมหาวิทยาลัย แต่เธอยังคงเรียนภาษาจีนอยู่ตลอด
หลังจบการศึกษา แพรวทำงานอยู่ที่โรงแรมระดับ 5 ดาวในเชียงใหม่ ทุกๆ วันเธอต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากจึงพูดภาษาจีนอยู่เสมอ ในปี 2019 แพรวสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน หรือ เอชเอสเค (HSK) ระดับที่ 3 ผ่านและได้รับทุนการศึกษาของสถาบันขงจื่อ จึงได้ทำตามความฝันและเดินทางมาศึกษาต่อที่ประเทศจีน
เมื่อเดือนมกราคม 2020 แพรวกลับไปอยู่ที่ไทยระหว่างช่วงปิดเทอมฤดูหนาว ก่อนจะเดินทางกลับจีนอีกครั้ง ขณะนั้นโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในจีนแล้ว ทำให้แพรวต้องอยู่แต่ในห้อง แพรวเล่าว่าครอบครัวของเธอเป็นห่วงเธอมาก พวกเขามักจะโทรศัพท์มาขอให้เธอกลับบ้าน เมื่อสถานเอกอัครราชทูตไทยติดต่อมาแจ้งว่ามีเครื่องบินรับชาวไทยในคุนหมิงกลับประเทศ แต่แพรวเชื่อมั่นว่าประเทศจีนจะสามารถเอาชนะการแพร่ระบาดได้ จึงเลือกที่จะไม่กลับไทย
ในระยะแรกที่จีนต่อสู้กับการแพร่ระบาด นอกจากข้อจำกัดด้านการเดินทางแล้ว แพรวกลับรู้สึกว่าชีวิตประจำวันไม่ได้แตกต่างไปจากเดิมนัก เวลาที่ออกไปซื้อของข้างนอก เธอพบว่าชาวจีนต่างปฏิบัติตามข้อแนะนำของรัฐบาล ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย สแกนรหัสคิวอาร์เมื่อเข้า-ออกร้านค้า ตรวจวัดอุณหภูมิ และทำความสะอาดฆ่าเชื้อมือ ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยมาก
แพรวเองก็ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างแข็งขัน ทำให้หม่ากวนเหมี่ยว ซึ่งเป็นครูประจำชั้นของเธอรู้สึกประทับใจมาก หม่าเล่าว่าแพรวเป็นคนมีมารยาท ชอบช่วยเหลือผู้อื่น และขยันเรียนมาก “แพรวมีพัฒนาการรวดเร็วระหว่างเรียนภาษาจีน 1 ปีและมักจะช่วยเหลือนักศึกษาคนอื่นๆ เสมอ”
ภายใต้การจัดการของทางมหาวิทยาลัย ทำให้ปัจจุบันแพรวได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โด๊สแรกแล้ว และเริ่มออกท่องเที่ยวในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน แพรวเล่าว่าประเทศจีนมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามมากมาย และเธอชื่นชอบอาหารและวัฒนธรรมท้องถิ่นของแต่ละแห่งเป็นพิเศษ นอกจากคุนหมิงและเมืองใกล้เคียงแล้ว แพรวยังเคยไปอีกหลายพื้นที่ อาทิ มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มณฑลหูหนานและหูเป่ยทางตอนกลาง มณฑลฝูเจี้ยนทางตะวันออกเฉียงใต้ มณฑลกว่างตง (กวางตุ้ง) ทางตอนใต้ และเมืองเซินเจิ้น เป็นต้น
ระหว่างอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยและออกเดินทางท่องเที่ยว แพรวสังเกตเห็นว่าชาวจีนต่างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด เธอเองก็คุ้นชินกับการตรวจวัดอุณหภูมิ สวมหน้ากากอนามัย และแสดงรหัสสุขภาพ ขณะเดียวกันครูประจำชั้นมักจะแสดงความห่วงใยต่อเธอเสมอ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้แพรวรู้สึกอุ่นใจมาก
แพรวมักจะยิบยกบทกวีจีนมาเขียนแทนความรู้สึกเวลาเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ และโพสต์ลงบนโซเชียลมีเดียของตนเอง ทั้งยังเผยแพร่คลิปวิดีโอการเรียนภาษาจีนและชีวิตประจำวันของเธออยู่บ่อยครั้ง ทำให้ชาวไทยจำนวนมากหันมาหลงรักประเทศจีนและส่งข้อความมาถามวิธีการไปเรียนต่อที่ประเทศจีน
ปัจจุบันแพรวเรียนปรับพื้นฐานภาษาจีนระยะ 1 ปี เสร็จสิ้นแล้ว และจะเริ่มเรียนต่อในระดับปริญญาโทในเดือนกันยายนนี้ “ฉันจะตั้งใจเรียนภาษาจีนต่อไป และจะกลับไปเป็นครูสอนภาษาจีนในไทย เพื่อเผยแพร่วัฒนธรรมจีนที่ฉันชอบค่ะ”..
เครดิตภาพ : ซินหัว