สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคาบูล ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ว่านายดมิทรี เซอร์นอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำอัฟกานิสถาน กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการที่กลุ่มตาลีบันยกพลเข้าสู่กรุงคาบูล และประกาศชัยชนะเหนือรัฐบาลของประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ซึ่งสหรัฐสนับสนุน และถือเป็นการหวนคืนสู่อำนาจเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปีของกลุ่มตาลีบัน ว่าเป็นการ "จัดการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ"
เซอร์นอฟกล่าวต่อไปว่า บรรยากาศในกรุงคาบูลสงบลงมากแล้ว นับตั้งแต่กลุ่มตาลีบันเข้ามา โรงเรียนทุกแห่งกลับมาเปิดการเรียนการสอนตามปกติ และเด็กผู้หญิงยังคงเข้าเรียนได้ บ่งชี้ว่า สถานการณ์ภายในเมืองหลวงของอัฟกานิสถาน "มีความปลอดภัยมากขึ้น" เมื่ออยู่ภายใต้กลุ่มตาลีบัน มากกว่าสมัยรัฐบาลกานี "ซึ่งเป็นองค์กรที่อ่อนแอตั้งแต่ฐานราก" การร่วงลงจากอำนาจของกานีส่งผลให้เกิดความไร้ระเบียบและภาวะสุญญากาศทางการเมือง
ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตรัสเซียกล่าวถึงเหตุการณ์ในช่วงสุดท้าย ก่อนกานีหลบหนีออกนอกประเทศ ว่ากลุ่มตาลีบันส่งสมาชิกที่ไม่มีอาวุธเข้ามาในกรุงคาบูล เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐบาลคาบูลและกองทัพสหรัฐวางอาวุธ หลังจากนั้นกองกำลังติดอาวุธของตาลีบันเข้ามาสมทบ และในระหว่างนั้นกานีฉวยโอกาสหลบหนี
แม้รัฐบาลมอสโกยังคงขึ้นบัญชีดำกลุ่มตาลีบันเป็นองค์กรก่อการร้าย แต่การให้ความเห็นของเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงคาบูลถือเป็นสัญญาณในเบื้องต้น ว่ารัสเซียมีความประสงค์เสริมสร้างความสัมพันธ์กับรัฐบาลอัฟกานิสถานชุดใหม่ ภายใต้การนำของกลุ่มตาลีบัน ที่สหภาพโซเวียตเคยพยายามโค่นอำนาจเช่นกัน และต้องถอนทหารกลับออกไป เมื่อปี 2532 แต่ยังคงสงวนท่าทีว่า แล้วรัฐบาลมอสโก "จะให้การยอมรับอย่างเป็นทางการ" ต่อรัฐบาลคาบูลชุดใหม่หรือไม่.  

เครดิตภาพ : AP