เป็นที่รู้กันว่าทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหรือมอเตอร์เวย์ (Motorway) ก่อสร้างด้วยมาตรฐานสูง ควบคุมการเข้าออกของรถยนต์และใช้ความเร็วได้ถึง 120 กม.ต่อ ชม. ทางเลือกในการเดินทางที่สะดวกรวดเร็วกว่าทางหลวงธรรมดาที่แลกมาด้วยค่าธรรมเนียมผ่านทาง

แต่ไม่ว่าจะทางหลวงธรรมดาหรือมอเตอร์เวย์ที่เหมือนกันคือความเมื่อยล้าจากการเดินทาง จึงต้องมีจุดพักริมทางให้ผ่อนคลายได้เปลี่ยนอิริยาบถ

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) บอกว่า ทล. กำลังจัดเตรียมเอกสารการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุน (Request For Proposal : RFP) ตามพ.ร.บ.การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 (PPP) เพื่อพัฒนาและบริหารจัดการที่พักริมทางบนมอเตอร์เวย์หมายเลข7 ( M7) สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ช่วงกรุงเทพฯ-ชลบุรี-พัทยา-มาบตาพุด 2 แห่ง วงเงินลงทุนก่อสร้างรวม 1,439.04 ล้านบาท ได้แก่

1.ศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา (Sriracha Service Center) วงเงินลงทุน 935.40 ล้านบาท

2.สถานที่บริการทางหลวงบางละมุง (Bang Lamung Service Area) วงเงินลงทุน 503.64 ล้านบาท

ที่พักริมทาง 2 แห่งนี้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) การพัฒนาที่พักริมทางบนมอเตอร์เวย์ หมายเลข 7 สายกรุงเทพมหานคร-บ้านฉาง ระหว่างปี 63-67 คาดว่าจะรับฟังความคิดเห็นภาคเอกชน (Market Sounding) เดือน ธ.ค.นี้ และจะประกาศเชิญชวนเอกชนร่วมลงทุนต้นปี 66 คาดว่าเปิดให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐาน อาทิ ที่จอดรถ พื้นที่พักผ่อน ห้องน้ำ และพื้นที่พาณิชย์บางส่วน ได้ภายในปี 67 วางแผนเปิดบริการเต็มรูปแบบทั้งพื้นที่ได้ภายในปี 68

สำหรับสถานที่บริการทางหลวงบางละมุง เป็นที่พักริมทางขนาดกลาง บริเวณ กม.137+800 บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 มีพิกัดตั้งอยู่ระหว่างทางแยกต่างระดับห้วยใหญ่และทางแยกต่างระดับเขาชีโอน ขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ 38 ไร่ จะพัฒนาเป็นจุดแวะพักหลักเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ทาง ภายในสถานที่บริการประกอบด้วย สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ได้แก่ ที่จอดรถ พื้นที่นั่งพักผ่อน ห้องน้ำบริการประชาชน ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายของ สถานีบริการน้ำมัน สถานีชาร์จประจุไฟฟ้าแบบเร็ว (Quick Charge) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ศูนย์บริการระบบผ่านทางอัตโนมัติ และการบริการอื่น ๆ ที่จำเป็น

ส่วนศูนย์บริการทางหลวงศรีราชา เป็นที่พักริมทางขนาดใหญ่ บริเวณ กม.93+750 บนมอเตอร์เวย์หมายเลข 7 ตั้งอยู่ระหว่างทางแยกต่างระดับบางพระ (คีรี) และทางแยกต่างระดับหนองขาม ขนาดพื้นที่ฝั่งละประมาณ 59 ไร่

เพื่อเป็นจุดหลักในการแวะพักสำหรับผู้ใช้ทาง ภายในศูนย์บริการประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบถ้วนเช่นเดียวกับที่บางละมุง เพิ่มเติมคือมีศูนย์ปฐมพยาบาล หน่วยกู้ภัยฉุกเฉินและระงับอัคคีภัย เพื่อรองรับการให้บริการประชาชนผู้ใช้ทาง

อธิบดีกรมทางหลวง ลงรายละเอียดด้วยว่า ที่พักริมทาง 2 แห่งนี้ กำหนดรูปแบบให้มีอาคารยกระดับคร่อมอยู่เหนือช่องจราจร กลางมอเตอร์เวย์ แตกต่างจากจุดพักริมทางที่เคยตั้งอยู่ริมทางหลวง เพื่อรองรับการใช้พื้นที่ร่วมกันทั้งสองฝั่ง ช่วยแก้ปัญหาสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ ทั้งที่จอดรถ ห้องน้ำ ร้านค้า สถานีบริการน้ำมัน ในเวลาที่มีความคับคั่งมาก โดยเฉพาะช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และวันหยุดเทศกาล

ถือเป็นจุดพักรถ 2 แห่งแรกในประเทศไทย ที่กรมทางหลวงดำเนินการตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ที่ให้ไอเดียช่วงไปดูงานเยี่ยมชมโครงการจุดพักรถและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ที่จัดสรรพื้นที่เชื่อมโยง 2 ฝั่งถนนในรูปแบบศูนย์การค้าชุมชน​ (Community Mall)​ ที่กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อเดือน ก.พ. 63 และมอบหมายให้กรมทางหลวงมาศึกษาความเป็นไปได้

เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะช่วยอำนวยความปลอดภัยการเดินทางระยะไกล เป็นสถานที่ผ่อนคลายอิริยาบถจากการเดินทาง การทำธุระส่วนตัว รวมถึงการใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า ง่วงหรือหลับใน เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้ทางประหยัดเวลา และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าและออกจากระบบมอเตอร์เวย์โดยไม่จำเป็น รวมถึงสามารถดึงดูดผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองมากขึ้น

นอกจากนี้ยังส่งเสริมระบบโครงข่ายคมนาคมของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สนับสนุนภาคเศรษฐกิจในพื้นที่ข้างเคียงรอบที่ตั้งจุดพักริมทางให้เกิดการพัฒนา เติบโต ทั้งในด้านการจ้างงาน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การบริการ และการพัฒนาสังคมหลากหลายมิติ

จากศาลาทางหลวงธรรมด๊า.. ธรรมดา…พัฒนาเรื่อยมาเป็นจุดพักริมมอเตอร์เวย์ พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่โครงการแรก เหมือนยกห้างมาให้ช้อปกันกลางมอเตอร์เวย์ ได้แวะพักผ่อนขจัดความเมื่อยล้า ชาร์จแบตเติมพลังระหว่างการเดินทาง

…ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่ง…