เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา เขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อนเล็กน้อย ยังคงส่งผลทำให้ปริมาณน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งผลกระทบทำให้ระดับน้ำเริ่มทรงตัว น้ำที่ยังท่วมอยู่ในพื้นที่ 15 อำเภอ 156 ตำบล 1,019 หมู่บ้าน 73,438 ครัวเรือน และพื้นที่การเกษตรกว่า 13,400 ไร่ และบ่อปลา กระชัง โค กระบือ ศาสนสถาน รวม 188 แห่ง ได้แก่ วัด 172 แห่ง โบสถ์ 1 แห่ง มัสยิด 15 แห่ง โรงเรียน 43 แห่ง สถานที่ราชการ 50 แห่ง (รพ.สต.)

โดยพบว่า อำเภอผักไห่ เป็นพื้นที่ถูกน้ำจากแม่น้ำน้อย ซึ่งรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนมาเป็นเวลากว่า 2-3 เดือน สำหรับอำเภอผักไห่ มี 16 ตำบล ถูกน้ำท่วมทั้ง 13 ตำบล 100 หมู่บ้าน มีชาวบ้านได้รับผลกระทบแล้ว 5,998 หลังคาเรือน

จ.มหาสารคาม นายนันทวิทย์ นาคแสง นายอำเภอเมืองมหาสารคาม ได้ออกแจ้งเตือนประชาชน เนื่องด้วย คณะกรรมการติดตามสถานการณ์น้ำ จ.มหาสารคาม ได้รับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ณ วันที่ 16 ต.ค.65 พบว่า ระดับน้ำในแม่น้ำชี ยกตัวสูงขึ้นไหลพาดคันพนังกั้นน้ำระดับ 30-50 ซม. และคันพนังบางช่วงชำรุดพังทลาย ทำให้มวลน้ำ ไหลบ่าเข้าพื้นที่การเกษตรและหมู่บ้าน ที่ตั้งอยู่ท้ายลำห้วยคะคางทั้งสองฝั่ง เกินกว่าที่จะป้องกันและรับมือ สถานการณ์ถือว่าอยู่ใน”ขั้นวิกฤต” ประกอบกับยังมีการระบายน้ำในอัตราสูง จากเขื่อนอุบลรัตน์อย่างต่อเนื่อง

ดังนั้น เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงขอให้กำนัน/ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน ในเขต ต.เกิ้ง,ต.ลาดพัฒนา,ต.ท่าตูม  ดำเนินการ ดังนี้ 1.ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ ปชช.ทราบ และเพื่อความปลอดควรอพยพออกจากพื้นที่ที่เคยท่วมสูงสุด ประกอบด้วย -บ้านหนองหวาย บ้านเลิงบ่อ บ้านกุดซุย บ้านหนองนาแซง บ้านป่าจั่น ต.ลาดพัฒนา -บ้านดอนดู่ บ้านติ้ว ต.เขวา (ที่ลุ่มต่ำ) 2.แจ้งหลีกเลี่ยงเส้นทาง/งดใช้-เส้นมหาสารคาม-ฆ้องชัย-เส้นพนังบ้านท่าตูม-บ้านม่วง-เส้นบ้านติ้ว-บ้านลาด 3.ดูแลทรัพย์สิน สิ่งของ ยกขึ้นที่สูง/อพยพสัตว์เลี้ยงไปในที่ปลอดภัย หรือที่ทางราชการจัดไว้ให้ 4.หากมีความต้องการความช่วยเหลือด้านต่างๆ ในหมู่บ้าน ให้ประสานขอความช่วยเหลือตามช่องทางการสื่อสารที่แจ้งไว้แล้ว

จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย ผศ.จุรีรัตน์ กอเจริญยศ รองนายกเหล่ากาชาด จังหวัดกาฬสินธุ์ นางวิไลลักษณ์ เวชยาพันธุ์ ประธานหอการค้าจังหวัดกาฬสินธุ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาฬสินธุ์ หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอฆ้องชัย ผู้บริหารท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณบ้านท่าเยี่ยม, บ้านหนองคล้า และบ้านหนองหวาย อำเภอฆ้องชัย จังหวัดกาฬสินธุ์ หลังปริมาณน้ำชีเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน เมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา

โดยระดับน้ำล่าสุดมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากมวลน้ำจังหวัดขอนแก่น มหาสารคาม และร้อยเอ็ด ระดับน้ำที่วัดได้จากเขื่อนวังยาง สูงกว่าระดับน้ำสูงสุดปี 2564 จาก 141.16 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง โดยสูงกว่า 0.55 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่ต่างเร่งเสริมแนวกั้นน้ำอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ได้ประกาศเตือนประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำชี ทั้งในอำเภอฆ้องชัย อำเภอกมลาไสย และอำเภอร่องคำ ให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด.