กรณีโจ๋ 16 ขับรถบีเอ็มดับเบิลยู ฝ่าไฟแดงชนรถจักรยานยนต์ นายธนพล หรือ เต้ แก้วมูล อายุ 24 ปี ชาว จ.นครสวรรค์ อีกทั้งเป็นบัณฑิตป้ายแดง เกียรตินิยม ปริญญาตรีหลักสูตรวิศวกรรมโทรคมนาคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) นครราชสีมา เหตุเกิดในพื้นที่ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา เมื่อคืนวันที่ 30 ก.ย. ญาตินำศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่จังหวัดนครสวรรค์ และทำพิธีฌาปนกิจไปเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะที่โจ๋ 16 ถูกตำรวจตั้งข้อหารวม 4 ข้อหา ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

แจ้ง 4 ข้อหาเยาวชนวัย16 ขับรถBMWชนบัณฑิตมทส.เกียรตินิยมดับ นำตัวส่งสถานพินิจ

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ โลกออนไลน์ ออกมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่เห็นใจผู้เสียชีวิต แล้วแห่รุมประณามโจ๋ 16 กระทั่งมีการขุดคุ้ยครอบครัวของ โจ๋ 16 คนขับรถ อย่างต่อเนื่องและแชร์กันจำนวนมาก มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างหลากหลาย จึงเดินทางไปสอบถาม นายเทิดพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ พ่อของโจ๋ 16 คนขับรถ เบื้องต้นเปิดใจว่า หลังได้รับแจ้งว่าลูกชายขับรถชนคนตาย รู้สึกตกใจมาก คืนนั้นได้พาลูกชายไปพบพนักงานสอบสวนทันที ซึ่งพนักงานสอบสวนได้นัดมาในวันรุ่งขึ้น ก็ไปตามนัดเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา

นายเทิดพงษ์ เผยอีกว่า พนักงานสอบสวน ยังบอกให้รอพบกับพ่อของผู้เสียชีวิตซึ่งกำลังเดินทางมา ตนก็รอจนกระทั่งพบกัน จึงพาลูกชายและเพื่อนๆ ไปกราบขอขมา โดยวันเดียวกันได้สอบถามเรื่องค่าจัดงานศพ ก็ได้รับคำตอบว่า แถวนั้นถ้าจัดงานศพจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 180,000 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท จึงหาเงินมาเตรียมไว้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้แนะนำให้มาจ่ายและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานต่อหน้าพนักงานสอบสวน แต่ติดปัญหา เพราะฝั่งผู้เสียชีวิตต้องรีบนำศพกลับไปบ้านเกิดนครสวรรค์ จึงเกิดการล่าช้า ไม่ได้หลบเลี่ยงแต่อย่างใด ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าใจดี

นายเทิดพงษ์ เผยว่า วันฌาปนกิจศพ ตั้งใจจะไปร่วมงานพร้อมนำเงิน 250,000 บาท ไปให้เป็นค่าทำศพที่หน้างาน โดยจะขับรถจากบุรีรัมย์ ไปนครสวรรค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ประสานผู้ใหญ่บ้านที่หมู่บ้านที่ตั้งศพของน้องเอาไว้แล้ว เมื่อไปถึงจะได้ประสานกับผู้ใหญ่บ้านให้ติดต่อญาติในงานศพ เวลาต่อมาผู้ใหญ่บ้านกลับออกมาแล้วสรุปให้ฟังว่า “ไม่สมควรเข้าไป” เพราะญาติผู้เสียชีวิตยังไม่ตอบรับ เกรงว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้น จึงตัดสินใจขับรถกลับบุรีรัมย์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนขอกราบขอโทษและขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียหาย ขอโทษคนทั้งประเทศ ที่บางครั้งอาจจะเข้าใจผิดไปบ้าง แต่ส่วนหนึ่งตอนนี้ครอบครัวของตัวเอง โดนโลกโซเชียล รุมประณาม ทั่วประเทศรวมถึงลูกชายซึ่งตอนนี้ปิดห้องเงียบ

พ่อโจ๋ 16 กล่าวว่า หลังจากนี้จะพยายามประสานเรื่องเยียวยา เรื่องเงินค่าทำศพต่อไปอีก ผ่านพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องการเยียวยาความสูญเสีย ต้องยอมรับว่าตีเป็นมูลค่าไม่ได้ เพราะไม่สามารถเอาชีวิตกลับคืนมาได้ แต่ก็จะรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งจะต้องให้กระบวนการยุติธรรมเป็นคนตัดสิน กรณีโลกโซเชียลถามถึงความเป็นมาของการขับรถของลูกชายนั้น รถคันดังกล่าวตนซื้อมาเอง เพราะมีอาชีพซื้อมาขายไปทีละคัน วันเกิดเหตุลูกชายอยู่กับปู่ ย่า ที่ จ.นครราชสีมา ขับรถออกไปโดยไม่ได้แจ้งปู่กับย่า กระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น