สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ 12 ส.ค. ว่า รัฐบาลนิวซีแลนด์ซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีนั้น มีแผนที่จะเปิดประเทศรับนักเดินทางจากต่างชาติเข้ามาได้ในช่วงต้นปีหน้าเป็นต้นไป ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ชะลอการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง เพื่อให้คนมาฉีดเข็มที่หนึ่งกันก่อนให้มากขึ้น เพราะอันตรายจากการติดเชื้อของไวรัสสายพันธุ์เดลตาเริ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ ความสำเร็จของนิวซีแลนด์ในการควบคุมการแพร่ระบาด ทำให้ชีวิตกลับมาเป็นเกือบปกติแล้ว โดยประเทศที่มีประชากร 5 ล้านคน พบการเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 จำนวน 26 ศพ นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดใหญ่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด เช่น การปิดพรมแดน อนุญาตให้เข้าประเทศได้เฉพาะชาวนิวซีแลนด์หรือผู้มีถิ่นฐานอยู่ในประเทศนิวซีแลนด์เท่านั้น
นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาเดิร์น ของนิวซีแลนด์ กล่าวว่า รัฐบาลปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญเป็นสำคัญและยังยึดมั่นในยุทธศาสตร์เพื่อกำจัดเชื้อโรคร้าย ส่วนตัวเลขผู้ฉีดวัคซีนครบสองเข็มมี 17% และอย่างน้อยหนึ่งเข็มแล้ว 29% ของประชากรในประเทศนิวซีแลนด์
นายกรัฐมนตรีหญิงของนิวซีแลนด์กล่าวยืนยันว่า จะยังไม่เปิดพรมแดนจนกว่าการจัดฉีดวัคซีนจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้ แต่การฉีดวัคซีนก็ยังถือว่าล่าช้ากว่าประเทศที่พัฒนาแล้วบางประเทศ แม้ว่าจะพยายามเร่งรัดแล้วในขณะนี้ แต่ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีหน้าเป็นต้นไป นิวซีแลนด์จะเริ่มอนุญาตให้นักเดินทางจากต่างประเทศเข้ามาได้โดยพิจารณาจากปัจจัยพื้นฐานอย่างระมัดระวัง เช่น ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงน้อย ก็ไม่ต้องเข้ารับการกักตัว ส่วนกลุ่มเสี่ยงปานกลางก็ต้องกักตัวบางส่วน และกลุ่มประเทศเสี่ยงสูงหรือยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็ต้องเข้ารับการกักตัวให้ครบ 14 วันในโรงแรมที่กักตัวซึ่งกองทัพเป็นผู้ดูแล
เครดิตภาพ AP