สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ว่าสถานการณ์ไฟป่าในกรีซล่วงเลยเข้าสู่วันที่ 9 เมื่อวันพฤหัสบดี โดยเป็นอิทธิพลจากคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดในรอบ 3 ทศวรรษ โดยเกาะเอเวียซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับสอง ตั้งอยู่ทางตะวันออก และภูมิภาคเพโลพอนนีสที่อยู่ทางตะวันตก ได้รับผลกระทบมากที่สุด เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของกรีซ ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากหลายประเทศ รวมถึงไซปรัส สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี และสาธารณรัฐเช็ก สามารถป้องกันไฟป่าไม่ให้ลุกลามเข้าสู่เมืองโบราณ โอลิมเปีย เอาไว้ได้
ทั้งนี้ ไฟป่าในกรีซยังไม่มีการยืนยันผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ แต่มีการอพยพประชาชนอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม กระทรวงมหาดไทยของแอลจีเรียรายงานว่า ภาคเหนือของประเทศยังคงเผชิญกับอิทธิพลรุนแรงของไฟป่ามากกว่า 50 แห่ง ตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา เบื้องต้นภาครัฐเชื่อว่า "เป็นการวางเพลิง" โดยยังปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม 
กลุ่มควันจากไฟป่า บนภูเขาในภูมิภาคทิซี โอซู ทางตะวันออกของกรุงแอลเจียร์ เมืองหลวงของแอลจีเรีย
สำหรับไฟป่าในแอลจีเรีย มีการยืนยันจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 65 ราย รวมถึงทหารอย่างน้อย 28 ราย ซึ่งลงพื้นที่เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการดับเพลิง ขณะที่ทุกภาคส่วนทั้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของรัฐ และอาสาสมัครพลเรือน เร่งมือควบคุมสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามขยายวงกว้าง และเพื่อป้องกันการเสียชีวิตเพิ่มอีก
เฮลิคอปเตอร์ดับเพลิงเร่งเติมน้ำ บริเวณทะเลสาบ ที่เกาะเอเวีย ทางตะวันออกของกรีซ
อนึ่ง รายงานวิเคราะห์โดยสหภาพยุโรป ( อียู ) เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ระบุว่า ภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียนกำลังเป็น "จุดร้อน" ของไฟป่า ซึ่งเป็นผลจากอิทธิพลของคลื่นความร้อน โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ตุรกีและกรีซ ส่วนประเทศใกล้เคียงหากไม่เผชิญกับไฟป่า มีแนวโน้มเผชิญกับสภาพอากาศร้อนจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต.

เครดิตภาพ : REUTERS