นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าเตรียมของบประมาณในปี 65 จำนวน 90 ล้านบาท เพื่อนำมาปรับปรุงซ่อมแซมท่าเรืออ่าวมะขามป้อม ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง คาดว่าใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน สำหรับการปรับปรุงครั้งนี้นั้นเนื่องจากท่าเรืออ่าวมะขามป้อม เดิมทีกรมประมงได้ก่อสร้างไว้เมื่อปี พ.ศ.2534 ภายหลังได้ยกให้เทศบาลตำบลสุนทรภู่ดูแล เพื่อรองรับเรือประมงขนาดกลางและขนาดเล็ก

อีกทั้งยังมีนักท่องเที่ยวลงเรือที่ท่าเรือดังกล่าว เพื่อไปท่องเที่ยวยังเกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก ซึ่งเกาะมันในเป็นที่ตั้งของโครงการพระราชดำริอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล หน่วยงานที่ต้องการจะเดินทางไปเยี่ยมชมโครงการฯ ต้องมาใช้บริการท่าเทียบเรือแห่งนี้  

นายวิทยา กล่าวต่อว่า สำหรับลักษณะท่าเรืออ่าวมะขามป้อม เป็นท่าเรือคอนกรีตเสริมเหล็กรูปตัวที สะพานท่าเรือมีขนาด 3×100 เมตร หน้าท่าเรือมีขนาด 7×21 เมตร ปัจจุบันมีสภาพชำรุดเสื่อมโทรมตามระยะเวลาการใช้งาน เพราะใช้งานมากกว่า 30 ปี ดังนั้นกรมเจ้าท่าจึงดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซม สอดคล้องกับที่ผ่านมาเทศบาลตำบลสุนทรภู่ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์มายังกรมเจ้าท่า ให้เข้าสำรวจออกแบบและก่อสร้างปรับปรุงท่าเรือทดแทนท่าเรือเดิมโดยเร่งด่วน

เพราะปัจจุบันท่าเรืออ่าวมะขามป้อมเป็นท่าเรือสาธารณะเพียงแห่งเดียวใน อ.แกลง มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากนิยมลงเรือเพื่อเดินทางไปยังเกาะมันนอก เกาะมันกลาง เกาะมันใน และเกาะใกล้เคียงในพื้นที่ จ.ระยอง พบว่าพื้นที่ท่าเรือบางส่วนมีสภาพเสื่อมโทรมตามการใช้งาน ซึ่งอาจส่งผลต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ขณะนี้ได้ลงพื้นที่สำรวจโครงสร้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาระยอง ดำเนินการปิดท่าเรือไม่ให้ใช้งานเป็นการชั่วคราว เนื่องจากอาจก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชนในพื้นที่  

นายวิทยา กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามการซ่อมแซมท่าเรืออ่าวมะขามป้อมแล้วเสร็จ จะทำให้ได้ท่าเรือใหม่ที่มีความเหมาะสม สวยงาม สามารถรองรับกิจกรรมด้านการประมง ด้านการท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกปลอดภัย ทั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการในการส่งเสริมความปลอดภัยและการท่องเที่ยวทางน้ำ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ลดลง

จ.ระยองจะถือเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจะหลั่งไหล่ไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม พร้อมตอบสนองนโยบายภาครัฐ เร่งผลักดันปรับปรุงท่าเรือให้มีมาตรฐานความปลอดภัย พร้อมใช้งานและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติต่อไป