คร ๆ ก็รู้ว่า “จันทบุรี” มีทะเล มีพลอย มีผลไม้อย่างทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง และยังมีเขาคิชฌกูฏ เป็นจุดหมายห้ามพลาดของสายมูกับการเดินขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทบนยอดเขา ภูเขาของจันทบุรีไม่ได้มีแค่ที่นี่ที่เดียว ยังมีเทือกเขาทอดตัวยาวต่อเนื่องกับเขาคิชฌกูฏที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และพืชพรรณ จนทำให้บริเวณในแถบนี้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี

ท่ามกลางพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสอยดาวที่เป็นเทือกเขาติดต่อกับเขาคิชฌกูฏ มีอุโบสถของ “วัดเขาบรรจบ” ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ บรรยากาศเงียบสงบเหมาะกับการปฏิบัติธรรม มีต้นสมพงษ์อายุกว่าร้อยปีสูงกว่า 10 เมตร ต้นใหญ่ขนาด 10 คนโอบ เป็นเสมือนประตูสวรรค์ (Heavenly door) อยู่ระหว่างทางเดินไปบิณฑบาตของพระสงฆ์ ผ่านลอดช่องของต้นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ นอกจากนี้ภายในพื้นที่วัดยังมีนํ้าตก ลำธาร และสะพานแขวนไปไม่ไกลจากพระอุโบสถ สะพานไม้แขวนข้ามลำธารที่ไหลผ่านตลอดเวลา

วัดเขาบรรจบตั้งอยู่ที่บ้านทุ่งเพล ตำบลฉมัน อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 39 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หากหาที่นั่งพักนั่งชิลก่อนไปจุดหมายต่อไปแนะนำ “Station Es Cafe” คาเฟ่ในปั๊มนํ้ามันแต่บรรยากาศสุดชิล ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ เติมสีสันด้วยปลาคาร์ปตัวใหญ่ อาคารตกแต่งสไตล์ “Nordic Tropical” โทนสีเขียวและสีเหลือง แถมไม่ได้มีแค่กาแฟให้จิบแต่มีอาหารทั้งคาวและหวานให้ลิ้มลองเพียบ หรือจะแวะ “Black Coffee & Bistro” คาเฟ่ขนาดน่ารัก ริมถนนสาย 317 จันทบุรี-สระแก้ว มีเมนูหลากหลายให้เลือก ทั้งเครื่องดื่ม เค้ก ขนม พร้อมมุมพักผ่อนทั้ง Indoor และ Outdoor ที่สำคัญมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ

สายกรีนแนะนำ “For-Rest Coffee & Eatery” ร้านกาแฟท่ามกลางภูเขา นํ้าตก สวนผลไม้ มีเมนูกาแฟหอม ๆ เครื่องดื่มเลือกได้หลากหลาย เค้ก ขนมพร้อมเสิร์ฟ หรือจะสั่งอาหารทานเบา ๆ หรือมื้ออิ่ม

เดินทางต่อไปที่อำเภอโป่งนํ้าร้อน มี “วัดเขาชวัง” เป็นอีกวัดที่มีความสวยงามท่ามกลางธรรมชาติและสวนผลไม้ของชาวบ้าน โบสถ์ทำจากไม้เก่าแกะสลักทั้งหลัง พระอาจารย์ หนูทอง หาสจิตโต ได้สร้างอุโบสถไม้แกะสลักขึ้นโดยนำไม้เหลือใช้และส่วนหนึ่งทางวัดซื้อมา เช่น ไม้สัก ไม้ตะเคียน ไม้ประดู่ และไม้แดง มาสร้างเป็นโบสก์ไม้แกะสลักทั้งหลังเมื่อปลายปี 2553 ด้านในมีพระประธานสร้างด้วยหินอ่อนสีขาวงดงาม

ขับรถต่อไปที่อำเภอสอยดาวที่ “วัดเทพประทาน” เป็นที่ประดิษฐานของพระสมเด็จองค์ปฐม “พระพุทธเมตตา” องค์ใหญ่ จัดสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 พระพุทธรูปปางชนะมารสร้างด้วยนิลทั้งองค์ ประดับผิวองค์พระด้วยพลอยรัตนะ นอกจากนี้ยังมีอาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ 84 พรรษา ปี พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ด้วย

วัดเทพประทาน เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ในตำบลทรายขาว อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี แต่เดิมเป็นป่าไม้รกร้างอยู่ในความดูแลของสหกรณ์โป่งนํ้าร้อน ต่อมาได้จัดสรรพื้นที่ป่าเป็นที่ทำกินให้แก่ชาวบ้านผู้ยากไร้ จนเมื่อ พ.ศ. 2515 นายเจริญ มาศจันทร์ ย้ายถิ่นฐานมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด ได้บุกเบิกพื้นที่ทำสวนผลไม้และครอบครองที่ดิน 100 ไร่ โดยแบ่งที่ราบเชิงเขาประมาณ 18 ไร่ สร้างเป็น สำนักสงฆ์โพนสวรรค์ และต่อมา พระอาจารย์ชาด ได้จำพรรษาอยู่ มีพระภิกษุ แม่ชี ญาติโยมประจำ ภายหลังเปลี่ยนชื่อและตั้งเป็นวัดเทพประทานอย่างถูกต้องเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2543

ที่อำเภอสอยดาวยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอย่าง “นํ้าตกเขาสอยดาว” อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.เขาสอยดาว ห่างจากที่ทำการประมาณ 4 กิโลเมตร นํ้าตกมี 16 ชั้น บริเวณธารนํ้าตกมีผีเสื้อจำนวนมากเหมาะสำหรับการดูผีเสื้อและศึกษาพรรณไม้ บริเวณนํ้าตกมีต้นไม้ยักษ์ “ต้นพระเจ้าห้าพระองค์” อยู่ทางขวามือห่างจากนํ้าตกชั้นแรกไปราว 200 เมตร เป็นไม้ยืนต้นในป่าดิบชื้น ลำต้นใหญ่ขนาด 20 คนโอบ รากขนาดใหญ่โผล่พ้นผิวดินขึ้นมาถึง 5 เมตร ทั้งแตกแขนงเป็นซอกหลืบดูคล้ายโพรงถํ้า

ภูเขาสลับซับซ้อนในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาวมียอดเขาสูง 2 ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือและสอยดาวใต้ ความสูงของยอดสอยดาวใต้สูงสุด 1,675 เมตร จากระดับนํ้าทะเล สภาพป่าอันอุดมสมบูรณ์เป็นต้นกำเนิดของธารนํ้าหลายสาย ไหลตกลงมาเป็นนํ้าตกเขาสอยดาวขนาดใหญ่ นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าเข้าไปชมระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ตลอดเส้นทางมีทั้งความงามและความตื่นเต้นท้าทาย เช่น ชั้นนํ้าตกที่ต้องปีนผาไปตามรากไทรสูงราว 20 เมตร กระทั่งถึงนํ้าตกชั้นบนสุดซึ่งมีขนาดสูงใหญ่ งดงาม นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นนํ้าตกได้ถึงชั้นที่ 9 เท่านั้น ใช้เวลาเดินขึ้นเกือบ 2 ชั่วโมง ส่วนชั้นที่ 10-16 ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง ใช้เวลาเดินอีก 1 ชั่วโมง บริเวณนํ้าตกมีบ้านพักรับรองบริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติชื่อ “ลีลาไทร” ใช้เวลาเดิน 2 ชั่วโมง ระยะทาง 2 กิโลเมตร

มาถึงอำเภอสอยดาวแล้วห้ามพลาด “Until You” ร้านอาหารญี่ปุ่นอาหารสดใหม่ไม่ธรรมดาของจันทบุรี เจ้าของคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมมาให้บริการ แถมด้วยเมนูผสมผสานกับความเป็นไทยรสจัดจ้าน

นางสาวเสาวนีย์ คนกล้า ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานจันทบุรี กล่าวว่า โซนภูเขาของจันทบุรีในช่วงฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว มีอากาศเย็นสบาย สามารถมองเห็นสายหมอกปกคลุมภูเขา สวยงามมาก เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ และมีแหล่งท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวก สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มเจนวาย และครอบครัว ซึ่งเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของจันทบุรี

ช่วงฤดูฝน เข้าสู่ฤดูหนาว อยากมาเที่ยวโซนภูเขาจันทบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานจันทบุรี โทร.06-2595-1902 หรือ Facebook Fanpage : ททท.สำนักงานจันทบุรี.

อธิชา ชื่นใจ