นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานพาณิชย์จังหวัด เร่งแก้ปัญหาราคาลำไยตกต่ำในภาคเหนือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกร และผู้รวบรวมรับซื้อ ผู้ส่งออก หลังจากขณะนี้ผลผลิตลำไยภาคเหนือทยอยออกสู่ตลาดมากแล้ว แต่ผลผลิตบางส่วนไม่ได้คุณภาพ ลูกเล็ก แตกลายแก่เร็วกว่าปกติ เพราะสภาพอากาศแปรปรวน ไม่สามารถนำไปอบแห้งได้ 

นอกจากนี้ จากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดยังทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานเก็บลำไย ทั้งในส่วนของแรงงานชนเผ่า ที่ปิดหมู่บ้านป้องกันโควิด จึงออกจากหมู่บ้านมาเก็บลำไยไม่ได้ ส่วนแรงงานต่างด้าวก็ไม่สามารถเดินทางข้ามเขต ขณะที่แรงงานไทยจากภาคอื่นก็ขาดแคลนเช่นกัน ตลอดจนไม่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดหลักอย่างจีน และเวียดนาม ส่งผลให้ราคาลำไยตกลงอย่างหนัก

นายวัฒนศักย์กล่าวว่า การแก้ปัญหาคือจะเร่งดูดซับผลผลิตลำไยในช่วงที่ผลผลิตออกมามากกว่า 80,000 ตัน โดยกรมจะช่วยค่าบริหารจัดการ กก.ละ 3 บาทสำหรับรับซื้อลำไยของ 6 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน เชียงราย แพร่ น่าน และพะเยา รวมถึงร่วมกับห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกขนาดใหญ่จัดทำสัญญารับซื้อ 6 ราย เป้าหมาย 4,788 ตัน ได้แก่ บิ๊กซี เดอะมอลล์ โลตัส แม็คโคร ตลาดกลางต่างๆ ตลอดจนสนับสนุนค่าบริหารจัดการด้านการส่งออก กก.ละ 5 บาท เพื่อเร่งการส่งออกผลผลิต ซึ่งล่าสุดมีผู้ส่งออกลำไยที่ยื่นขอรับการสนับสนุนแล้ว 31 ราย ปริมาณส่งออก 59,482 ตัน 

ขณะเดียวกันจะเสริมสภาพคล่องให้กับผู้รับซื้อ โดยจะชดเชยดอกเบี้ย 3% วงเงินกู้รายละ 50 ล้านบาท ระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน ให้กับสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการ เพื่อนำไปเสริมสภาพคล่องเข้าไปช่วยรับซื้อลำไยจากเกษตรกร ขณะเดียวกันกรมจะจัดกิจกรรมรณรงค์บริโภคลำไยในประเทศเป้าหมาย 2,350 ตัน ผ่านร้านธงฟ้า รถโมบาย ห้างท้องถิ่น ห้างค้าส่งค้าปลีก ขณะที่สถานีบริการน้ำมัน ปตท. และบางจาก ได้อนุเคราะห์พื้นที่ภายในปั๊มให้เกษตรกรนำผลผลิตมาขายโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย โดยมั่นใจว่า จากมาตรการต่างๆ จะช่วยทำให้ราคาลำไยปรับตัวขึ้นได้