ครอบครัว 6 ชีวิตแร้นแค้นของ “นก” หรือ นางศศินิภา ดวงมืด อายุ 43 ปี หลังพ่อผู้เป็นเสาหลักมาจากไปในวัยชรา ไม่นานแม่ก็เกิดอุบัติเหตุเดินไม่ได้ ต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียง เธอต้องแบกภาระรับช่วงทำขนมจีนขายต่อจากแม่ ขณะที่สามีตัวเองก็มาล้มป่วย จำเป็นต้องทำงานหาเงินก้มหน้าเลี้ยงลูกอีก 3 คนลำพัง ลูกชายคนโตพิการแขนขาอ่อนแรง ลูกสาวคนกลางอยู่ในวัยกำลังเรียน และลูกสาวคนเล็กป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ชีวิตแต่ละวัน นกต้องกัดฟันสู้ แม้เหนื่อยยากเพียงไหนก็ต้องทน เพื่อครอบครัวและคนที่รัก

ภาพของ “นก” ที่ง่วนอยู่กับการทำงานยืนบีบเส้นขนมจีนในเพิงพักที่สร้างขึ้นมาชั่วคราวข้างบ้าน เปิดเป็นร้านขายขนมจีนเล็กๆ เป็นที่คุ้นชินของชาวบ้าน บ้านตาลปากน้ำ ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มานานกว่า 9 ปีแล้ว ร้านของนกจะขายขนมจีนบีบสดและน้ำยาปลาร้า ราคาถูก อร่อย มีลูกค้าประจำไปอุดหนุนไม่ขาดสาย แต่หลังจากมีโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้คนใช้จ่ายอย่างประหยัด ค้าขายได้น้อย รายได้หดหาย

นก เล่าว่า แต่เดิมการขายขนมจีนเป็นหน้าที่ของนางนันทา ดวงมืด อายุ 68 ปี ผู้เป็นแม่ เพื่อหารายได้เสริมช่วยพ่อที่มีอาชีพชาวไร่ยาสูบ พอพ่อเสียชีวิตลง แม่ก็รับภาระหนัก ต้องขายขนมจีนหาเงินดูแลพี่ชายของตน ที่ป่วยเป็นมะเร็งตับอยู่หลายปีก่อนจะเสียชีวิต แม่ก็โชคร้ายเมื่อ 9 ปีก่อน พลาดท่าหกล้มในห้องน้ำ ทำให้กระดูกก้นกบแตก ไม่สามารถกลับมาเดินเหินได้เหมือนเดิม อีกทั้งประสาทการควบคุมการขับถ่ายไม่ทำงาน ไม่สามารถควบคุมการขับถ่ายเองได้ ต้องสวมใส่ผ้าอ้อมตลอดเวลา

แม่มีลูก 2 คน ตนเป็นคนเล็ก แต่งงานอยู่กินกับนายณัฐพล สุทธิสาร มีลูกด้วยกัน 3 คน คนโตคือ นายพงศธร สุทธิสาร อายุ 22 ปี พิการมาแต่กำเนิด เป็นโรคลมชัก แขนขาอ่อนแรง ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คนรองคือ นางสาวมัลลิกา สุทธิสาร อายุ 18 ปี ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6 คนสุดท้องคือ เด็กหญิงขวัญเรือน สุทธิสาร อายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

“ชีวิตตนมีวิบากกรรมมาโดยตลอด ไม่นานมานี้ สามีก็มาป่วยเป็นโรคเกาต์ เดินเหินไม่ค่อยสะดวก งานรับจ้างที่เคยทำก็ต้องหยุดไป ทุกวันนี้ตนต้องดูแลแม่ สามี ลูกชายคนโต และลูกสาวคนเล็กที่ต้องเทียวไปรักษาเรื่องดวงตาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น อยู่ประจำทุกๆ 3 เดือน รายได้ที่มีจากการที่ตนขายขนมจีนก็ไม่พอรายจ่าย ต้องให้ลูกสาวคนเล็กออกจากโรงเรียนไว้ก่อน เพื่อเปิดโอกาสให้พี่สาวได้เรียนก่อน”

นก เล่าต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า รายได้จากการขายขนมจีนแต่ละวันหักรายจ่ายแล้วก็เหลือไม่เท่าไหร่ เมื่อก่อนขายได้วันละ 800-1,000 บาท แต่เดี๋ยวนี้บางวันขายได้ไม่ 100 บาท เมื่อรายได้ไม่พอรายจ่าย ที่นาที่เคยมีอยู่หลายแปลงก็ต้องทยอยขาย เพื่อนำเงินมารักษาคนป่วยในบ้านที่มีถึง 4 คน บางครั้งเงินขาดมือก็ต้องไปหยิบยืมเพื่อนบ้านเป็นหนี้เป็นสินพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ครอบครัวลำบากมากจริงๆ

ผู้หญิงแกร่งคนนี้ ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายว่า 1 ชีวิตที่ต้องดูแลอีก 5 ชีวิต แม้จะเหนื่อยหนัก จะมีอุปสรรคสักเพียงใด ตนก็จะสู้เพื่อคนที่รัก ทุกวันนี้ได้กำลังใจจากครอบครัว หากมีหน่วยงานภาครัฐ หรือผู้ใจบุญมาช่วยก็ยินดีรับความช่วยเหลือ เพื่อให้ครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้

ด้านนางสาวจารุวรรณ อุดานนท์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 บ้านตาลปากน้ำ เปิดเผยว่า ครอบครัวนี้มีคนป่วยติดเตียงหลายคน ตนได้ช่วยทำบัตรผู้พิการเพื่อให้ได้รับสิทธิต่างๆ ของทางราชการ และประสาน อสม. ให้มาช่วยดูแลพร้อมแนะนำวิธีการดูแลผู้ป่วยติดเตียงอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้เป็นแผลกดทับ อย่างไรก็ตาม ตนได้นำเรื่องราวครอบครัวของนก เสนอต่อพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้หาทางช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

คอลัมน์ : นิยายชีวิต โดย : อสงไขย
เรื่องและภาพโดย : บัณฑิต แสงวิจิตร จ.นครพนม
แนะนำเรื่องราวชีวิตดั่งนิยาย หรือสอบถามได้ที่ [email protected]
[[คลิก]] อ่านเรื่องราว “นิยายชีวิต” เพิ่มเติมได้ที่นี่..