สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 11 ส.ค.ว่าศาลประชาชนระดับกลางแห่งมณฑลเหลียวหนิง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน ตั้งอยู่ที่เมืองตานตง ซึ่งเป็นเมืองเอกของมณฑล มีคำพิพากษา เมื่อวันพุธ ให้นายไมเคิล สปาวอร์ นักธุรกิจสัญชาติแคนาดา ซึ่งถูกจับกุมเมื่อเดือน ธ.ค. 2561 และอัยการสั่งฟ้องสปาวอร์ เมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว ในข้อหาจารกรรมข้อมูลลับทางราชการ และการส่งข้อมูลนั้นให้กับ "กองกำลังต่างชาติ" มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาทั้งหมด และรับโทษจำคุกเป็นเวลา 11 ปี
ขณะเดียวกัน ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์สินของสปาวอร์ เป็นมูลค่า 50,000 หยวน ( ราว 257,470.05 บาท ) และ "การเนรเทศจำเลย" แต่ไม่ได้ระบุว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด ทั้งนี้ ศาลใช้เวลาพิจารณาคดีเพียงวันเดียว เมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา แต่ "รอจนถึงเดือน ส.ค." เพื่อประกาศคำพิพากษา
นอกจากสปาวอร์แล้ว ยังมีชาวแคเนเดียนอีกคนหนึ่ง ซึ่งต้องขึ้นศาลแห่งนี้ด้วยข้อหาคล้ายคลึงกัน คือนายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูต ถูกจับกุมในเวลาไล่เลี่ยกับสปาวอร์ และถูกฟ้องในข้อหาจารกรรมข้อมูลข่าวกรอง ซึ่งส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพและความมั่นคงของรัฐ โดยศาลน่าจะประกาศคำพิพากษาบทลงโทษของคอฟริก ภายในสัปดาห์นี้เช่นกัน
ด้านนายโดมินิก บาร์ตัน เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า "ผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง" ต่อคำพิพากษาของศาลจีน ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังศาลประชาชนชั้นสูงแห่งมณฑลเหลียวหนิง ในภาคตะวันออกของจีน ตั้งอยู่ที่เมืองต้าเหลียนซึ่งเป็นเมืองเอก มีคำพิพากษาไม่รับคำร้องของนายโรเบิร์ต ลอยด์ เชลเลนเบิร์ก สัญชาติแคนาดา ซึ่งต้องการอุทธรณ์คำพิพากษาประหารชีวิต เมื่อเดือน ม.ค. 2562
ทั้งนี้ ศาลพิพากษาให้เชลเลนเบิร์กรับโทษประหารชีวิต และยึดทรัพย์สินทั้งหมด จากความผิดในคดีอาญาอุกฉกรรจ์ ด้วยการเป็นหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายค้ายาเสพติดระหว่างประเทศ ลักลอบขนยาบ้าน้ำหนักรวมมากถึง 222 กิโลกรัม ผ่านจากจีนไปยังออสเตรเลีย โดยเชลเลนเบิร์กถูกจับกุมเมื่อเดือน ธ.ค. 2557
ในเวลาเดียวกัน น.ส.เมิ่ง หว่านโจว ทายาทคนโตของนายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัทหัวเว่ย กำลังต่อสู้ดีกับศาลที่เมืองแวนคูเวอร์ ในแคนาดา เพื่อไม่ให้มีการส่งตัวเธอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐ ฐานละเมิดกฎหมายคว่ำบาตรอิหร่านของรัฐบาลวอชิงตัน.
เครดิตภาพ : AP